โรบินสัน ชูกลยุทธ์ Contactless Payment ลดการสัมผัสเงินสด และบัตรเครดิต ตอบรับ Cashless Society ห่างไกลโควิด-19 คาดลูกค้าหันมาช้อปไร้เงินสดเพิ่มมากขึ้น พร้อมสร้างความมั่นใจกับมาตรการคุมเข้ม 50 สาขาทั่วประเทศ
นายอนุชิต สรรพอาษา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรบินสัน เดินหน้าป้องกัน และสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการชูกลยุทธ์ ‘Contactless Payment’ ที่จะเป็นหัวหอกสำคัญในการรณรงค์เชิญชวนลูกค้าหันมาลดการสัมผัส-จับต้องเงินสด หรือบัตรเครดิต เพื่อป้องกันการรับเชื้อไวรัสดังกล่าวอีกหนึ่งทาง
โดยลูกค้าสามารถจับจ่ายผ่าน E-payment ทั้งระบบ Dolfin, Samsung Pay และ Alipay ในห้างสรรพสินค้า รวมทั้งร้านค้าต่างๆ ภายในศูนย์การค้าก็จะมี QR Code ให้ลูกค้าเลือกชำระเงินได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
ทั้งนี้ นอกจากเป็นการป้องกัน และความมั่นใจแก่ลูกค้าแล้ว ยังเป็นการรองรับไลฟ์สไตล์ของคนในสังคมยุค Cashless Society อีกด้วย ซึ่งเรามั่นใจว่า หลังจากนี้ ลูกค้าจะหันมาใช้จ่ายผ่าน e-Payment มากขึ้น จากปัจจัยต่างๆ ทั้งเรื่องของความสะดวก ปลอดภัย รวดเร็ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการป้องกันตัวเองจากการรับเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดีทางหนึ่ง
โรบินสัน ยังมีการทำโปรโมชันร่วมกับ Dolfin เมื่อช้อปตั้งแต่ 500 บาท ขึ้นไป และชำระเงินผ่าน Dolfin ที่โรบินสัน รับเงินคืน 100 บาท (จำกัด 1 สิทธิ/ท่าน/เดือน สูงสุด 5,000 สิทธิ/เดือน) ตั้งแต่วันนี้-30 มิถุนายน 2563
พร้อมตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่นิยมการข้อปออนไลน์ด้วย Robinson Shop Online ช้อปสินค้า แบรนด์ชั้นนำได้ทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมงที่ www.robinson.co.th หรือสะดวกมากขึ้นด้วยการบริการสั่งสินค้าผ่าน Robinson Online และบริการ Robinson Chat & Shop ช้อปกับพนักงานที่รอให้บริการช่วยหาสินค้า เพียงทักแชต ช็อปสินค้า จากนั้นก็รอรับสินค้าที่บ้านได้เลย หรือสามารถเลือกรับสินค้าได้ที่โรบินสันกับบริการ Click & Collect
นอกจากนี้ โรบินสัน ยังมีมาตรการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องดังนี้ 1) เพิ่มจุดติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อล้างมือในจุดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น 2) เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่ที่มีการสัมผัสบ่อย โดยการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ ทุก 2 ชั่วโมง 3) ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อในลิฟท์โดยสาร และห้องลองเสื้อผ้า ทุก 2 ชั่วโมง 4) เติมสบู่เหลว และกระดาษชำระในห้องน้ำอย่างเพียงพอตลอดเวลา 5) ในส่วนห้างสรรพสินค้า (โดยเฉพาะแผนกสินค้าแม่และเด็ก) ให้เพิ่มมาตรการในการทำความสะอาด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ทุก 2 ชั่วโมง 6) แผนกฟู้ดคอร์ท ให้รักษามาตรการดูแลความสะอาดอย่างเคร่งครัด เน้นย้ำกับทุกร้านค้า คุมเข้มมากขึ้น โดยบริษัทฯ ได้ใช้เครื่องล้างจาน ที่มีระบบไอน้ำอุณหภูมิสูงและผสมน้ำยาฆ่าเชื้อในการล้างจานชามอยู่แล้ว และทำความสะอาดบัตรฟู้ดคอร์ด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งก่อนนำไปใช้ใหม่ 7) ให้ดำเนินการ คัดแยกผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด และมาใช้บริการห้องพยาบาล ออกจากผู้ป่วยอื่นๆ และ 8) เพิ่มการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ เข้าไปในระบบปรับอากาศ ภายในห้างฯ และศูนย์การค้าฯ เพื่อจับมือกันผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกันอย่างปลอดภัย