กนอ.ระดมกึ๋น! รับมือวิกฤตภัยแล้งภาคตะวันออก ยอมรับปริมาณน้ำต้นทุนเหลือพอป้อนภาคอุตสาหกรรมถึงเดือน มิ.ย.นี้ เร่ง EASTW จัดหาซื้อน้ำจากบ่อดินภาคเอกชนมาเสริมเพิ่มได้ 16 ล้าน ลบ.ม. ด้าน กนอ.เตรียมรีไซเคิลน้ำจากบ่อบำบัดมาผ่านระบบ RO เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในโรงงาน ด้าน EASTW คงเป้าปริมาณการขายน้ำดิบใกล้เคียงปีที่แล้วอยู่ที่ 311 ล้าน ลบ.ม. แม้ว่าครึ่งปีแรกยอดขายวูบ
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และประธานกรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมเตรียมการแก้ปัญหาวิกฤตภัยแล้งในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ปี 2563 ระหว่าง กนอ. บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EASTW) และสมาคมนิคมอุตสาหกรรมไทยและพันธมิตร วันนี้ (4 มี.ค.) ว่า จากการสำรวจพบว่าปริมาณน้ำต้นทุนจากอ่างเก็บน้ำต่างๆ ภาคตะวันออกอยู่ที่ 35 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เพียงพอใช้ป้อนภาคอุตสาหกรรมถึงเดือน มิ.ย.เท่านั้น เนื่องจากนิคมฯ ต่างๆ ในจังหวัดระยองมีการใช้น้ำดิบอยู่ที่วันละ 3.7 แสนลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) และนิคมฯ ที่ร่วมพัฒนากับ กนอ.ที่จังหวัดชลบุรีมีการใช้น้ำดิบอยู่ 1 แสน ลบ.ม./วัน
ดังนั้น ที่ประชุมฯ จึงได้มีมาตรการต่างๆ เพื่อรับมือภัยแล้ง ทั้งการใช้ซ้ำ (Reuse) การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) และโรงงานต่างๆ ในนิคมฯ ในภาคตะวันออกประหยัดน้ำให้ได้ 10% ขณะเดียวกันก็ให้ทาง EASTW จัดหาแหล่งน้ำดิบเพิ่มเติมจากบ่อดินภาคเอกชนเข้ามาเสริมในจังหวัดชลบุรี และฉะเชิงเทรา รวมทั้งกรมชลประทานก็จัดหาน้ำเสริมด้วยเช่นกัน พบว่ามี 14 โครงการที่มีน้ำเข้ามาเสริมระบบเพื่อป้อนให้ภาคอุตสาหกรรมอยู่ต่อได้
หากพ้นเดือน มิ.ย.แล้วยังไม่มีปริมาณน้ำฝนเข้ามาเสริม ทาง กนอ.ก็มีโครงการนำน้ำจากบ่อบำบัดมาเข้ากระบวนการ RO เพื่อให้นำน้ำกลับมาใช้ในระบบอุตสาหกรรมได้ราว 1.4-2 หมื่น ลบ.ม./วัน ซึ่งต้นทุนในการนำน้ำจากบ่อบำบัดมารีไซเคิลด้วยระบบ RO (Reverse Osmosis) อยู่ที่ 72 บาท/ลบ.ม. มีต้นทุนต่ำกว่าการนำน้ำทะเลมากลั่นเป็นน้ำจืดที่ 100 บาท/ลบ.ม. รวมทั้งในต้นเดือน มิ.ย.นี้จะสามารถสูบน้ำจากแม่น้ำบางปะกงมาใช้ได้หลังไม่มีปัญหาน้ำกร่อย โดยบริษัทได้เพิ่มประสิทธิภาพการสูบน้ำจากบางปะกงจากเดิม 1-2 -2.2 แสน ลบ.ม./วัน เพิ่มเป็น 3 แสน ลบ.ม.ในกลางปี 2563
นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้ดำเนินการทำสัญญาซื้อน้ำจากบ่อเก็บน้ำของภาคเอกชนที่จังหวัดชลบุรี และมีการเริ่มทยอยสูบน้ำขึ้นมาใช้ป้อนภาคอุตสาหกรรม คิดเป็นปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นมา 16 ล้าน ลบ.ม. ล่าสุดเตรียมเสนอคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเข้าซื้อบ่อเก็บน้ำภาคเอกชนขนาด 7 ล้าน ลบ.ม. เพื่อเป็นแหล่งเก็บน้ำสร้างเสถียรภาพในช่วงภัยแล้งภาคตะวันออกด้วย
ในปีนี้บริษัทยังคงเป้ารายได้จากการขายปีนี้จะใกล้เคียงกับปี 2562 อยู่ที่ 4,680 ล้านบาท เนื่องจากตั้งเป้าหมายปริมาณการขายน้ำดิบในปีนี้จะใกล้เคียงกับปี 2562 อยู่ที่ 311 ล้าน ลบ.ม. แม้ว่าปัญหาภัยแล้งทำให้โรงงานอุตสาหกรรมในนิคมฯ จะลดการใช้น้ำลง 10% ทำให้การขายน้ำในครึ่งแรกปีนี้ลดลง แต่เชื่อว่าครึ่งหลังปี 2563 การใช้น้ำจะกลับเพิ่มสู่ภาวะปกติ เนื่องจากโรงงานได้เลี่อนการปิดซ่อมบำรุงจากปลายปีนี้มาเป็นต้นปีแทน ขณะเดียวกัน เตรียมเสนอบอร์ดบริษัทฯ ชะลอการปรับขึ้นราคาน้ำดิบให้ลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมด้วย