xs
xsm
sm
md
lg

‘ซาบีน่า’ ปรับเกมสู้ปัจจัยลบ-โควิด-19 คุมเข้มต้นทุน-ลุยขยายช่องทางขาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - ซาบีน่ายอมรับเริ่มต้นปี 2563 ปัจจัยลบรุมเร้าหนัก ปรับกลยุทธ์การขายผ่านช่องทางต่างๆ เผยวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัส “โควิด-19” ยังไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขาย ลั่นไม่ประมาท แม้ว่าปี 2562 กำไรสุทธิจะเติบโต 14.3% ควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย ลุ้นเป้าโต 7-10% ต่อปี

บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยผลประกอบการปี 2562 (มกราคม-ธันวาคม) โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 3,279.7 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 413.2 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2561 คิดเป็น 14.3% และอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 54.4% ซึ่งเป็นการเติบโตจากการขายในทุกช่องทาง ประกอบด้วย ช่องทางรีเทล (Retail) ผ่านเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าและซาบีน่าชอป เติบโต 3.7% ช่องทางออนไลน์หรือ Non Store Retailing (NSR) เติบโต 32.3% ช่องการส่งออก (Export) ในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม เติบโต 25.7% และช่องทางจ้างผลิต (OEM) เติบโต 0.1%

นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซาบีน่า หรือ SABINA กล่าวว่า แม้ว่าผลประกอบการในปี 2562 ที่ผ่านมาจะดีกว่าคาดการณ์ไว้ แต่ต้องยอมรับว่าในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มีปัจจัยลบเข้ามารุมเร้าหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่นอกจากจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวน้อยลงแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ รวมถึงกระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทำให้กำลังซื้อลดลงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม จากการประเมินอย่างใกล้ชิดของฝ่ายบริหารและการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคอย่างละเอียด พบว่ายอดขายสินค้าของซาบีน่ายังไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวแต่อย่างใด


“ยอดขายในช่วงต้นปีของเรายังไม่มีสัญญาณว่าจะมีปัญหาหรือได้รับผลกระทบ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจจะทำให้ผู้บริโภคลดการออกไปชอปปิ้งในห้างสรรพสินค้าหรือในแหล่งชุมชน แต่กลับส่งผลดีต่อการซื้อขายออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมายังคงมียอดคำสั่งซื้อเข้ามาปกติ ขณะที่ซาบีน่าเน้นการทำตลาดและกระตุ้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์อยู่แล้ว ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยจะยังต้องติดตามสัญญาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิดต่อไป ซึ่งกลยุทธ์การบริหารในภาวะที่ไม่ปกติเช่นนี้มีความจำเป็นต้องใช้ความยืดหยุ่นสูง และพร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขาย รวมถึงการทำตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้ตลอดเวลา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซาบีน่ากล่าว

นายบุญชัยยังกล่าวด้วยว่า บริษัทฯ ยังเน้นควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างเข้มข้น โดยในฝ่ายผลิต นอกจากจะเพิ่มทักษะให้พนักงานเพื่อให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทฯ ยังคงจ้างผลิตสินค้าจากโรงงานในประเทศจีน โดยในปี 2562 ที่ผ่านมาสัดส่วนการซื้อสินค้าสำเร็จรูปอยู่ที่ 37% และผลิตเองในสัดส่วน 63% ซึ่งแม้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการจ้างผลิต แต่ซาบีน่าได้เริ่มจ้างผลิตจากโรงงานในเวียดนามแล้ว เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงและใช้เป็นฐานในการเพิ่มยอดขายในประเทศเวียดนาม ซึ่งยังคงเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงอีกด้วย ทั้งนี้ จากกลยุทธ์ด้านการผลิต ประกอบกับการทำตลาดผ่านการขายออนไลน์ที่สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น จะส่งผลให้เป้าหมายการขยับอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ให้สูงขึ้นนั้นมีโอกาสเป็นไปได้มากขึ้น แม้จะต้องเผชิญกับภาวะที่ยากลำบากก็ตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น