“ณรงค์ศักดิ์” ประธานหอการค้าไทย-จีนคนใหม่ เร่งขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-จีนเพิ่ม มั่นใจปี 2563 ลงทุนจีนมาไทยยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะเอสเอ็มอี หวังเชื่อมอีอีซีไทยกับนโยบาย One Belt One Road ของจีน รับไวรัสโคโรนากระทบท่องเที่ยวที่อาจฉุด ศก.ไทยไตรมาส 1-2 ชะลอตัวเล็กน้อย แต่เชื่อมั่นว่าการแก้ไขปัญหาของจีนจะจบได้เร็ว
นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน (Thai Chinese Chamber of Commerce หรือ Thai CC) สมัยที่ 27 เปิดเผยภายหลังการรับมอบตำแหน่งประธานหอการค้าไทย-จีน วันนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2563) ว่า หอการค้าไทย-จีนถือเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนมาอย่างยาวนานถึง 110 ปี และในฐานะที่เข้ามารับตำแหน่งประธานหอการค้าไทย-จีน พร้อมที่จะยกระดับความสัมพันธ์ของสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันเพื่อเชื่อมโยงยุทธศาสตร์เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ของไทยกับนโยบายเส้นทางสายไหมใหม่ (One Belt One Road) ของจีนเพื่อยกระดับเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศให้เติบโตต่อไป
“จีนได้พัฒนาประเทศไปมากแล้วจนการเติบโตเริ่มอิ่มตัวต้องมองหาการลงทุนภายนอกประเทศ และผมคิดว่าธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ของจีนสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น ดังนั้น ทางหอการค้าไทย-จีนพร้อมที่จะร่วมมือกันดึงการลงทุนจากจีนเข้ามาไทย ขณะเดียวกันก็จะพัฒนาให้ธุรกิจไทยร่วมมือกับจีนทั้งในประเทศไทยและในจีน ซึ่งเอสเอ็มอีของจีนนั้นถือเป็นธุรกิจที่ไม่เล็กเลย ผมเองมีทีมงานที่จะร่วมมือกัน คาดหวังว่าอย่างน้อยในปีนี้หอการค้าไทย-จีนจะดึงลงทุนเอสเอ็มอีของจีนมาลงทุนในไทย 1-2 รายให้ได้” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ นักลงทุนจีนทั้งรายใหญ่และเอสเอ็มอีต่างสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยต่อเนื่องในเกือบทุกอุตสาหกรรมโดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซี คาดว่าในปี 2563 การเข้ามาลงทุนในไทยจะมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ต้องการให้ภาครัฐมีความชัดเจนในเรื่องนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอีอีซี ทั้งกฎหมายการถือครองที่ดิน และการถือหุ้นตามอัตราส่วนที่เหมาะสมที่รายละเอียดบางอย่างยังไม่ชัดเจน เช่น กรณีการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เห็นว่าควรจะเปิดทางให้นักลงทุนต่างชาติถือหุ้นมากกว่า 51% ก็จะช่วยกระตุ้นการลงทุนได้อย่างมาก เป็นต้น
สำหรับปัญหาเชื้อไวรัสโคโรนาที่แพร่ระบาดในจีนและหลายประเทศขณะนี้นั้น ทางหอการค้าไทยยังเชื่อมั่นว่าที่สุดจีนจะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้จบลงได้ในไม่กี่เดือนจากนี้ แต่ยอมรับว่าสินค้าที่ก่อนหน้านั้นต้องหยุดผลิตไปและวัตถุดิบที่ต้องส่งให้ไทยโดยเฉพาะจากเมืองอู่ฮั่นก็อาจได้รับผลกระทบบ้างทำให้กระบวนการที่จะกลับมาเป็นเช่นเดิมอาจใช้เวลา แต่ภาพรวมการส่งออกของไทยอาจจะชะลอบ้างเล็กน้อยจากปัญหาดังกล่าวแต่คงไม่ใช่ปัจจัยหลักเพราะส่งออกของไทยยังมีประเทศอื่นๆ อีก แต่ยอมรับว่าที่มีผลกระทบมากน่าจะเป็นธุรกิจท่องเที่ยวเพราะนักท่องเที่ยวจีนมาไทยจำนวนมาก ดังนั้นก็ย่อมจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1-2 เล็กน้อย
“หนักสุดคงเป็นเรื่องท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารเงียบเหงา กว่าจะฟื้นตัวคงใช้เวลา 3-4 เดือน ถ้าควบคุมได้การท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้เร็วมาก อย่างไรก็ตาม หอการค้าไทย-จีนได้มอบเงิน 15 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือคนจีนที่เผชิญกับไวรัสโคโรนา ขณะเดียวกัน การเข้ามาทำหน้าที่ครั้งนี้ผมก็พร้อมที่จะสานต่อภารกิจเพื่อความร่วมมือของทั้งสองประเทศในทุกมิติ และยกระดับให้เป็นองค์กรชั้นนำของกลุ่มองค์กรการค้าระหว่างประเทศที่ปัจจุบันไทยมีอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 36 แห่ง” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว