ผู้จัดการรายวัน360 - “บิ๊กซี” เคลื่อนทัพ ยื่นเสนอสนใจร่วมวงประมูลชิงซื้อธุรกิจเทสโก้โลตัส ชี้ขึ้นกับ 3 ปัจจัยหลัก “ราคา-คู่แข่งขัน-กฎหมาย” พร้อมขยายกิจการสาขาต่อเนื่อง
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดเผยว่า บิ๊กซีมีความสนใจกรณีที่มีข่าวว่าทางเทสโก้โลตัสจะขายกิจการค้าปลีกในไทยและมาเลเซีย ทางกลุ่มได้ยื่นเความสนใจและร่วมประมูลซื้อกิจการแล้ว ส่วนจะไปในนามบริษัทใดนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจเพราะมีหลายทางเลือก
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักๆ ในการพิจารณาคือ 1. ราคาซื้อขายวงเงินเท่าไร 2. การแข่งขันในการประมูลซื้อกิจการกับคู่แข่งรายอื่นมีใครบ้าง และ 3. เกี่ยวกับเรื่องกฎหมายธุรกิจการค้าด้วย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่คล้ายกันกับบิ๊กซีในเรื่องขอบเขตของการค้าที่ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการทางด้านการค้าจะตีความอย่างไร แต่เป็นธุรกิจมีความคล้าย และต้องไปศึกษารายละเอียดอีก
“3 ปีที่ผ่านมาหลังจากเข้ามาทำบิ๊กซีก็ศึกษามาอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่เข้ามาในบิ๊กซี ทางทีมก็เข้าใจในธุรกิจค้าปลีก เรามีความสนใจในธุรกิจนี้เพราะเป็นธุรกิจที่มีความคล้ายและมีโอกาสที่จะต่อยอดให้กับธุรกิจในกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ที่มีอยู่แล้ว ราคาซื้อจะคำนึงถึงผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นรวมถึงคู่ค้าอยู่แล้ว และเราทำในสิ่งที่สามารถสร้างผลตอบแทนกลับคืนให้ผู้ถือหุ้น”“บิ๊กซีมีโอกาสที่จะต่อยอดพัฒนาอีกมาก หลังจากเมื่อ 12-13 ปีที่แล้ว กลุ่มบีเจซีมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดก่อนซื้อบิ๊กซี 7,000 ล้านบาท แต่เมื่อได้บิ๊กซีเข้ามาอยู่ภายใต้กลุ่มบีเจซีแล้วปัจจุบันมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 170,000-180,000 ล้านบาท ทำให้เห็นว่าธุรกิจซูเปอร์มาร์เกตยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก”นายอัศวินกล่าวต่อว่า ช่วงนี้ได้เข้าไปศึกษาดูอยู่แล้วด้านข้อมูลต่างๆ เช่น จำนวนสาขาแต่ละจังหวัด ต่างกับบิ๊กซี บางจังหวัดเขาแข็ง บางจังหวัดเราแข็ง และรูปแบบสาขายังไม่เหมือนกันทั้งหมดในเรื่องของจำนวนร้านที่เทสโก้โลตัสมีร้านขนาดกลางซึ่งก็ไม่เหมือนกับบิ๊กซี หลายอย่างมีโอกาสที่จะเสริมเติมแต่งด้วยกันได้ ซึ่งต่างกันที่สัดส่วนลูกค้า จำนวนสาขา ประเภทของสาขา ไม่เหมือนกันทั้งหมด ในส่วนของขั้นตอนยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้เพราะอยู่ในกระบวนการ และผู้ประมูลเองต้องอยู่ในกรอบที่พูดได้ ไม่ได้
ปัจจุบันบิ๊กซีมีสาขารวม 1,231 สาขา (สิ้นสุดวันที่ 15 มกราคม 2563) แบ่งเป็นรูปแบบต่างๆ ดังนี้ ไฮเปอร์มาร์เกต จำนวน 150 สาขา สาขาล่าสุดคือ ปากช่อง, รูปแบบมาร์เกต จำนวน 63 สาขา ล่าสุดคือ สาขาสามย่านมิตรทาวน์ และรูปแบบมินิบิ๊กซี จำนวน 1,018 สาขา ล่าสุดคือ สาขาทรัพย์บุญชัย จังหวัดสมุทรปราการ โดยในช่วงครึ่งแรกปี 2563 มีแผนที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนภาพรวม สมาชิกบิ๊กการ์ด สิ้นปี 2562 จำนวนสมาชิก 8.8 ล้านราย เติบโตกว่า 15.78% จากปี 2561 ที่มีจำนวนสมาชิกประมาณ 7.6 ล้านราย ซึ่งปีนี้มีแผนที่จะเพิ่มจำนวนลูกค้าสมาชิกที่มาซื้อสินค้ากับบิ๊กซีมากกว่าการมุ่งเน้นเพิ่มเฉพาะยอดจำนวนสมาชิก
ปัจจุบัน Tesco มีกิจการในประเทศไทยคือ เทสโก้ โลตัส อยู่ที่ 1,967 สาขา ขณะที่ประเทศมาเลเซียมี 74 สาขา มีการจ้างพนักงานกว่า 60,000 ราย โดยรายได้จาก 2 ประเทศนี้อยู่ที่ประมาณ 4,900 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 192,855 ล้านบาท มีกำไรกว่า 11,256 ล้านบาท คิดเป็นกำไร 1 ใน 5 จากการดำเนินงานของกิจการในต่างประเทศของบริษัท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาเป็นวันที่กำหนดให้ผู้สนใจประมูลซื้อกิจการเทสโก้โลตัสในไทยกับมาเลเซียเข้ายื่นซองการเข้าร่วมประมูล
ทั้งนี้ มีหลายกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ของไทยที่มีความสนใจเข้าร่วมประมูลเทสโก้โลตัสเช่นกัน ซึ่งดีลใหญ่ขนาดนี้ก็ต้องเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้หลายปีที่บิ๊กซีขายกิจการในไทยก็มีกลุ่ม ปตท. กลุ่มบีเจซี กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มซีพี ที่มีข่าวว่าเข้าร่วมประมูลซื้อกิจการ ซึ่งครั้งนี้ก็มีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มเดิมๆ ก็คงเข้าร่วมเช่นกัน