xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” คุมเข้มการจำหน่ายสินค้าสถานีขนส่ง-รถไฟ ป้องกันผู้บริโภคโดนเอาเปรียบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมการค้าภายในส่งทีมเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ ทั่วประเทศ ป้องกันประชาชนโดนเอาเปรียบหลังต้องใช้บริการเดินทางกลับบ้านและท่องเที่ยว ย้ำต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน หากพบผิดปรับ 1 หมื่นบาท

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคบริเวณสถานีขนส่ง และสถานีรถไฟ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ประชาชนใช้บริการเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยได้เริ่มตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 2-30 ธ.ค. 2562 เพื่อให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่องการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ และเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคโดนเอารัดเอาเปรียบ

ทั้งนี้ หากผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หรือสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ซึ่งกรมฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับการจำหน่ายกระเช้าปีใหม่ กรมฯ ได้กำชับให้ระบุรายการสินค้า น้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุ และราคาของสินค้าแต่ละรายการที่บรรจุในกระเช้าของขวัญ รวมทั้งค่าภาชนะบรรจุด้วย และสินค้าในกระเช้าต้องมีอายุมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป

นายประโยชน์กล่าวว่า กรมฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายกระเช้าปีใหม่ ณ ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส และแม็คโคร สาขาแจ้งวัฒนะ พบว่าปริมาณสินค้ามีความเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคและเพียงพอต่อการจำหน่าย ผู้ประกอบการมีการจัดรูปแบบกระเช้าสินค้าที่บรรจุและราคาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดประเภทสินค้า และเมื่อเทียบราคาจำหน่ายกับช่วงเดือน ธ.ค. 2561 มีราคาจำหน่ายใกล้เคียงกัน และมีการปิดป้ายแสดงราคา และรายละเอียดสินค้าแต่ละรายการถูกต้อง ชัดเจนเป็นอย่างดี

ส่วนการติดตามผลการจัดงานมหกรรมลดราคาสินค้า “พาณิชย์ ลดปัง ข้ามปี New Year Grand Sale” ที่ห้างสรรพสินค้าได้ให้ความร่วมมือลดราคาจำหน่ายสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม หมวดของใช้ประจำวัน หมวดเครื่องครัว หมวดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า หมวดวัสดุก่อสร้าง ในทุกสาขาทั่วประเทศกว่า 20,000 สาขา ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. 2562-12 ม.ค. 2563 พบว่าประชาชนได้ให้ความสนใจเดินทางไปจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ


กำลังโหลดความคิดเห็น