คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เตือนบิ๊กค้าปลีกรายใหญ่ หากสนใจเข้าซื้อกิจการ “เทสโก้ โลตัส” ในไทยหลังได้ข่าวอาจมีการประมูลต้นปี 63 ต้องขออนุญาตการควบรวมธุรกิจก่อน หากไม่ดำเนินการ จะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุด 0.5% ของมูลค่าธุรกรรมในการรวมธุรกิจ
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการการแข่งขันทางการค้า และโฆษกคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เปิดเผยว่า ได้ทราบข่าวจากผู้เกี่ยวข้องในวงการธุรกิจค้าปลีก เกี่ยวกับกระแสข่าวการขายกิจการ “เทสโก้ โลตัส” ในประเทศไทยว่ามีความคืบหน้า และอาจจะมีการเปิดประมูลราคาซื้อขายในช่วงต้นปี 2563 โดยมีผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่หลายรายให้ความสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการดังกล่าว
“ขอย้ำเตือนว่าการซื้อขายกิจการเทสโก้ โลตัสในประเทศไทย หากเกิดขึ้นจริงตามที่ปรากฏเป็นข่าวจะต้องดําเนินการขออนุญาต และต้องได้รับการอนุญาตจาก กขค.ก่อนจึงจะทําการรวมธุรกิจได้ เนื่องจากเข้าข่ายเป็นการรวมธุรกิจตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 หากฝ่าผืนไม่ดําเนินการตามที่กฎหมายกําหนดต้องถูกลงโทษปรับสูงสุดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าธุรกรรมในการรวมธุรกิจ”
สำหรับการรวมธุรกิจตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า กําหนดแนวปฏิบัติไว้ 2 แนวทาง คือ 1. เมื่อมีการรวมธุรกิจแล้วอาจก่อให้เกิดการผูกขาดหรือเป็นผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งมีอํานาจเหนือตลาด (มีส่วนแบ่งตลาดเกินร้อยละ 50 และมียอดเงินขายตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป หรือเป็นผู้ประกอบธุรกิจ 3 รายแรกในตลาดมีส่วนแบ่งตลาดรวมกันเกินร้อยละ 75) ต้องขออนุญาตจาก กขค.ก่อน และต้องได้รับการอนุญาตจึงจะทําการรวมธุรกิจได้
2.เมื่อมีการรวมธุรกิจแล้วอาจก่อให้เกิดการแข่งขันลดลงอย่างมีนัยสําคัญ ต้องแจ้งให้ กขค.ทราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่รวมธุรกิจ โดย กขค.ได้กําหนดหลักเกณฑ์ไว้ว่าเป็นการรวมธุรกิจที่มียอดเงินขายในตลาดตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป และไม่ก่อให้เกิดการผูกขาด หรือเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอํานาจเหนือตลาด
ทั้งนี้ กขค.ยังได้สั่งการให้สํานักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สขค.) เฝ้าระวัง และติดตามการรวมธุรกิจอย่างใกล้ชิด และขอแจ้งเตือนผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องให้ระมัดระวัง และปฏิบัติตามกฎหมายการแข่งขันอย่างเคร่งครัด หากตรวจพบว่ามีการกระทําที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายจะดําเนินการลงโทษอย่างเฉียบขาดทันที