ผู้จัดการรายวัน 360 - เล้าอารีย์ เทรดดิ้ง ดึงประสบการณ์และเพนพอยต์ผู้สูงอายุ ปั้นแบรนด์ “เซนนิตี้” (Senity) เอาใจคนวัยเก๋า เตรียมเจาะตลาดออรัลแคร์ (Oral Care) ชู 4 โปรดักต์ ฮีโร่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก พร้อมนวัตกรรมซิลิโคนช่วยจับ ปูพรมช่องทางจำหน่ายแบบอีคอมเมิร์ซ เพิ่มบริการส่งสินค้าถึงบ้านตามรอบอายุการใช้งาน และรับบรรจุภัณฑ์เก่านำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล
นายวรวัฒน์ เล้าอารยะรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เล้าอารีย์ เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “เล้าอารีย์ เทรดดิ้ง มีประสบการณ์ด้านการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแปรงสีฟันภายใต้แบรนด์ “BrushMe” ทั้งยังเป็นผู้ผลิตแปรงสีฟันในรูปแบบโออีเอ็ม (OEM) ให้แก่กลุ่มเอสเอ็มอีและบริษัทชั้นนำของประเทศมากว่า 10 ปี จึงทำให้มองเห็นทิศทางของตลาดว่า
ปัจจุบันแบรนด์ต่างๆ มีการปรับผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น แต่ยังคงมุ่งไปที่กลุ่มเด็ก วัยทำงาน และครอบครัว ส่วนกลุ่มผู้สูงวัยยังไม่ค่อยมีการทำตลาดมากนัก ทั้งที่เป็นกลุ่มตลาดใหญ่และขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2564 จำนวนประชากรผู้สูงอายุจะเพิ่มเป็น 20% ของจำนวนประชากรหรือประมาณ 14 ล้านคน ส่งผลให้สถานการณ์ตลาดผู้สูงอายุมีแนวโน้มการเติบโตในกลุ่มธุรกิจที่สอดคล้องกับความต้องการผู้สูงอายุ ซึ่งผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจะเป็นกลุ่มที่มีความต้องการสูงขึ้น ประกอบกับตลาดผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อปานกลางถึงสูงยังต้องการสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลเป็นหลัก
“ปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก (Oral Care) ในประเทศไทยมีมูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมียาสีฟันเป็นเซกเมนต์ใหญ่ที่สุด ซึ่งในกลุ่มของยาสีฟันพรีเมียมยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป คนใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ยินดีจ่ายสำหรับสินค้าที่ดี มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องสุขภาพฟันและช่องปากมากขึ้น มีโอกาสเพิ่มความถี่ในการแปรงฟันต่อวันและใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลช่องปากหลากหลายขึ้น”
ขณะเดียวกัน เทรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากทั้งในและต่างประเทศมีการให้ความสำคัญต่อช่วงวัยต่างๆ และสร้างดีมานด์ในกลุ่ม Personal use หรือเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น ในวัยเด็กแรกเกิด ไปจนถึงเด็กโต และยังให้ความสำคัญต่อชนิดของขนแปรง รวมถึงขนาดของหัวแปรง แต่ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่โฟกัสไปยังกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะยังมีไม่มากนัก ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว
อีกทั้งกลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มักถูกมองข้ามมาตลอด สินค้าหรือบริการหลายอย่างถูกคิดมาแบบ Passive thinking คือเพื่อแค่รองรับปัญหาสุขภาพ แต่ทั้งนี้เล้าอารีย์ต้องการสร้างสินค้าและบริการแบบ Active thinking ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุยุคใหม่ได้ใช้ชีวิตแบบแอ็กทีฟ มีสีสัน ดูดี ไม่ต่างจากประชากรกลุ่มอื่นๆ จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากสำหรับผู้สูงวัยขึ้น ภายใต้แบรนด์ “เซนนิตี้” (Senity) โดยการนำประสบการณ์ด้านการทำธุรกิจแปรงสีฟันและการนำเอาปัญหา (Pain Point) ด้านการดูแลสุขภาพช่องปากที่พบในกลุ่มผู้สูงวัย เช่น ปัญหาการจับด้ามแปรงสีฟันไม่สอดรับกับกล้ามเนื้อมือ ปัญหาน้ำลายแห้งและปากแห้ง เป็นต้น มาคิดค้นและพัฒนาควบคู่กับนวัตกรรมเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นเทรนด์การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ทำกันทั่วโลก
ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ทุกตัวของแบรนด์เซนนิตี้สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้เองตามธรรมชาติ เพราะผลิตจากไบโอพลาสติก ประกอบด้วย ชานอ้อย ข้าวโพด และมันสำปะหลัง
กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปี ในระดับ B+ หรือคิดเป็นกว่า 10% ของประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทยกว่า 14 ล้านคน รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์ และกลุ่มผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ เซนนิตี้ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ “แปรงสีฟัน” (Toothbrush) ที่ถูกออกแบบมาให้คอแปรงทำมุม 10 องศา ด้ามจับแบน เพื่อให้จับถนัดมือและสอดรับกับช่องปาก ขนแปรงนุ่มเหมาะต่อเหงือกและฟันของผู้สูงวัย, “ยาสีฟัน” (Toothpaste) ใช้ส่วนผสมที่มีสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ปราศจากแอลกอฮอล์, “น้ำยาบ้วนปาก” (Mouthwash) แบบ 2-Phase มีส่วนผสมของน้ำมันและของเหลว และ “ซิลิโคนช่วยจับ” (GRIPP) อุปกรณ์ช่วยจับที่ถูกออกแบบตามสรีรศาสตร์ สามารถนำมาใช้คู่กับแปรงสีฟันหรือช้อนส้อมทำให้การจับยึดสะดวกยิ่งขึ้น
สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายจะปูพรมจำหน่ายบนช่องทางอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) เป็นหลัก เนื่องจากมองว่าเป็นช่องทางที่ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น รวมถึงยังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้สูงวัย เพราะสะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องออกเดินทางไปหาซื้อสินค้าด้วยตนเอง สามารถชมสินค้าและเลือกซื้อผ่านทาง website :: www.Senityofficial.com, Official Line :: @Senity, Facebook Page :: Senity รอรับสินค้าภายใน 1 วัน บริการจัดส่งฟรีสำหรับการสั่งซื้อเป็นเซต ผ่านบริการ DHL โดยจะมีการทำตลาดแบบ “ออนไลน์มาร์เกตติ้ง” (Online Marketing) ควบคู่กันไป จากพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Network) เช่น LINE Facebook และ YouTube ในกลุ่มผู้สูงอายุที่มากขึ้น
ในส่วนของการสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์เซนนิตี้นั้น จะใช้กลยุทธ์การสื่อสารในรูปแบบ Direct message marketing คือการส่งข้อมูลผลิตภัณฑ์พร้อมทั้งสินค้าตัวอย่างไปให้ผู้บริโภคโดยตรงเพื่อให้เกิดการทดลองใช้และเพื่อสร้างการรับรู้รวมถึงสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์ รวมถึงการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายรอง คือบุตรหลานของผู้สูงอายุ ซึ่งมีโอกาสจะเป็นผู้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ให้ผู้สูงอายุได้
นอกจากนี้ ยังเพิ่มบริการในแบบ Subscription Plan เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันในหลายประเทศ คือ ลูกค้าสามารถสมัครสมาชิกแบบรายปีและเลือกระยะเวลาความต้องการใช้สินค้า เช่น ทุก 1, 2 หรือ 3 เดือน บริษัทฯ จะทำการจัดส่งสินค้าให้ตามระยะเวลาที่กำหนด ภายใน 1 วัน บริการจัดส่งฟรี ผ่านบริการ DHL ขณะเดียวกัน ลูกค้าสามารถส่งสินค้าที่ใช้แล้วกลับมาเพื่อให้ทางบริษัทนำไปสู่กระบวนการรีไซเคิลหรือทำการย่อยสลายทางชีวภาพที่ถูกต้อง บริการดังกล่าวได้ทำการนำร่องสำหรับกลุ่มลูกค้าภายในประเทศไทย ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าในอนาคตจะทำการขยายบริการไปสู่ตลาดประเทศต่างๆ ทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา โดยสินค้าและบริการดังกล่าวเปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
“บริษัทฯ ตั้งเป้าขึ้นเป็น Global Brand ภายในระยะเวลา 5 ปี นอกจากนี้ยังได้เตรียมแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อนำมาเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้า รวมถึงการเพิ่มรูปแบบบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงวัย” นายวรวัฒน์กล่าว