xs
xsm
sm
md
lg

ซีอาร์จีปั้น “เกาลูน” รุกตลาดอาหารจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธนพล ธรรพสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี เปิดเผยว่า ด้วยมูลค่าตลาดอาหารในประเทศไทยโดยรวมอยู่ที่กว่า 410,000 ล้านบาทต่อปี (ที่มา ศูนย์วิจัยกสิกรไทย) โดยปี 2562 (ค.ศ. 2019 ) คาดว่าสัดส่วนอาหารประเภทอาหารจีนมีอยู่กว่า 4 พันล้านบาท และจะเติบโตตามเศรษฐกิจ เรามองเห็นโอกาสการเติบโต โดยเฉพาะอาหารประเภทซาลาเปา ติ่มซำ ซุป ที่มีราคาต่ำกว่า 100 บาท ยังเป็นช่องว่างการตลาดที่น่าสนใจให้เข้ามาแข่งขัน เนื่องจากเป็นอาหารที่ลูกค้าคุ้นเคย สามารถรับประทานรองท้องได้ในทุกช่วงเวลา ตั้งแต่มื้อเช้า-ค่ำ จึงได้เปิดตัวแบรนด์ เกาลูน เข้าสู่ตลาด

แบรนด์ เกาลูน ถูกพัฒนามาจากห้องอาหารจีนต้นตำรับจากแดนมังกร ไดนาสตี้ ด้วยความอร่อยระดับตำนาน จึงตั้งใจที่จะให้ เกาลูน เป็นอาหารจีนสำหรับทุกคน กับหลากหลายเมนูสุดพิเศษที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็น ซาลาเปาไส้ไข่เค็มลาวา ที่มีความหอม มัน อัดแน่นด้วยไส้ไข่เค็มลาวาเข้มข้น เสิร์ฟร้อน สดใหม่ ทุกครั้งที่ได้รับประทาน ซุปข้นเสฉวน รสชาติกลมกล่อมไม่เหมือนใคร


นอกจากนี้ ยังมีเมนูติ่มซำ ซุป และขนมหวานอีกมากมาย รูปแบบร้านเป็นคีออสก์ (Kiosk) แล้วแต่โลเกชัน เพื่อให้สามารถเข้าไปในโลเกชันที่เป็นแลนด์มาร์กของแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเหมาะสำหรับที่จะเปิดในบริเวณที่มีผู้คนสัญจรหนาแน่น แบ่งเป็นร้านคีออสก์ขนาดใหญ่ (ประมาณ 25-30 ตร.ม.) เหมาะกับพื้นที่บริการในโรงพยาบาลต่างๆ และร้านคีออสก์ขนาดเล็ก ใช้พื้นที่ไม่มากนัก (ประมาณ 20 ตร.ม.) ตามอาคารสำนักงานต่างๆ

โดยสาขาแรกตั้งอยู่ที่ชั้น 1 โรงพยาบาลรามาธิบดี อาคารศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ ดึงรูปแบบของรถราง (Tram) มาใช้ในการออกแบบเพื่อให้สะท้อนถึงความเป็นเกาลูน ที่จะพาคุณไปสัมผัสรสชาติสุดพิเศษได้อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของการตั้งเป้าเปิดสาขา เฟสแรกเล็งเปิดในทำเลศักยภาพใจกลางเมือง โดยจะเน้นพื้นที่ในโรงพยาบาล และอาคารสำนักงาน ซึ่งในปีแรกมีแผนเปิดจำนวน 6 สาขา และเป้าหมายในอีก 3-5 ปีข้างหน้าคือสามารถกระจายสาขาเพื่อมอบประสบการณ์ความอร่อยให้แก่ลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ก่อนที่จะขยายสู่ระบบขายแฟรนไชส์ ตั้งเป้าเปิดสาขาแตะถึง 100 สาขาภายใน 5 ปี และสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 1,200 ล้านบาท

สำหรับแผนการตลาดของการทำแบรนด์ เน้นการสื่อสารผ่าน Core Product เน้นเมนูซิกเนเจอร์เพื่อสร้างการรับรู้ ตลอดจนเน้นการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าด้วยการเสริมบริการดีลิเวอรี สั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน Food Hunt รวมถึงจับมือกับพันธมิตรรายใหญ่ระดับ Key Food Aggregator ทั้ง Grab Food, Line Man และ Food Panda พร้อมเล็งขยายพันธมิตรเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย พร้อมกับการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้เกิดการบอกต่อในรสชาติและความประทับใจ








กำลังโหลดความคิดเห็น