ผู้จัดการรายวัน360- ตลาดยาดมสะดุด กฏหมาย อย. ทำส่งออกกระทบ วอนขอเพิ่มอายุเป็น 5ปี บวกยอดขายจากท่องเที่ยวหด 'เบอร์แทรม' ส่ง ยาดม เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ รุ่น 'แบล็คอินเฮเลอร์' ด้วยแพคเกจ "สีดำ" ช่วยเพิ่มยอดขายสิ้นปีนี้แตะ 1,500 ล้านบาท โต 10%
นางสุวรรณา เอี่ยมพิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด เปิดเผยว่า ยาดม ถือเป็นวัฒนธรรมของไทยที่ทำรายได้จากการส่งออกได้ดี ทั้งฝั่งยุโรปและเอเชียที่ให้ความสนใจกับวัฒนธรรมยาดมของไทยอย่างมาก จนกลายสินค้าในอันดับต้นๆที่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยงประเทศไทยจะซื้อกลับ โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวในเอเชีย
สำหรับเบอร์แทม ให้ความสำคัญทั้งตลาดในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศ ในสัดส่วน 50% เท่าๆกัน ซึ่งในไทยยังไปได้ดีอยู่ โดยปัจจุบันตลาดส่งออกของเบอร์แทม ได้แก่ เกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ รวมถึงยุโรปและอเมริกา
แต่สำหรับตลาดส่งออก ขณะนี้พบปัญหาเรื่อง กฏหมายอายุยา จากทาง อย. ที่ปรับลดเหลือ2ปีจาก3ปีในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งกว่าจะส่งไปจำหน่ายในต่างประเทศได้สินค้าก็หมดอายุการใช้งานแล้ว จึงอยากให้ทางอย. พิจารณาเพิ่มระยะเวลาอายุยาใหม่ ซึ่งควรอยู่ที่ 5ปี ตามอายุงานจริงของสินค้า จะช่วยให้การส่งออกยาดมมีทิศทางที่ดีขึ้น
นางสุวรรณา กล่าวว่า ภาพรวมตลาดยาดมในไทยปี2562 คาดว่าจะมีมูลค่า 4,500 ล้านบาท ประกอบด้วย แบบบาล์มหรือกลุ่มยาหม่องซึ่งมีสัดส่วนมากสุด ตามด้วย ยาดมแท่ง และแบบน้ำ ซึ่งพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงใช้ เฉลี่ย 2 ชิ้น/เดือน และตลาดนี้โตจากการซื้อเพราะทำหาย และเพื่อนยืมแล้วไม่ได้คืน เป็นหลัก
อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดยาดมด้านความทันสมัย เข้าใจในความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน ล่าสุดช่วงปลายปีนี้ บริษัทได้เปิดตัว ยาดมแบล็คอินเฮเลอร์ ด้วยแพคเกจ "สีดำ" ให้ลุคเท่ สมาร์ท และกลิ่นที่เข้มกว่าเดิม เพื่อตีตลาดคนเมือง โดยเฉพาะผู้ชาย ทั้งวัยรุ่นและวัยทำงาน พัฒนาขึ้นมาโดยใช้นวัตกรรม 3 More คือ 1.More Cool ด้วยดีไซน์ ยาดมสีดำ โดดเด่นไม่เหมือนใคร 2.More Fresh ด้วยส่วนผสมของเป๊ปเปอร์ออย และน้ำมันยูคาลิปตัส ที่เข้มกว่าเดิม และ3.More Safe เป็นมิตรกับจมูก ดมได้บ่อยเท่าที่ต้องการ วางจำหน่ายในราคา 29 บาท ตั้งเป้า ปี63 จะมียอดขายที่ 1 ล้านชิ้น
สำหรับยาดมแบล็คอินเฮเลอร์ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 14ปี ที่บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อเจาะวัยรุ่นคนเมืองผ่านพรีเซนเตอร์คนใหม่ คือ The toys นักร้องขวัญใจเด็กแนว โดยใช้งบกว่า 15 ล้านบาทในการทำการตลาด ภายใต้กลยุทธ์ไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตติ้งทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ผ่านการโฆษณาสินค้าให้สอดคล้องไปกับเนื้อหาที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ เช่น สุขภาพ แฟชั่น ไอเท็มใหม่ ดนตรี และเกมส์ รวมถึงประชาสัมพันธ์ผ่าน ทรานซิท มีเดีย ทั้ง BTS,MRT หรือ Office Building
ทั้งนี้เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ เติบโตต่อเนื่อง หรือสิ้นปีนี้บริษัทคาดการณ์ว่าจะมียอดขายที่ 187 ล้านบาท โต 15% จากปีก่อนทำได้ 162 ล้านบาท แบ่งออกเป็นในประเทศและต่างประเทศที่ 50% เท่าๆกัน โดยเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ อยู่ในอันดับ2 ของตลาดมีแชร์ 10% ต่อจากแบรนด์โป๊ยเซียนมีส่วนแบ่ง 70% และอีก20% มาจากแบรนด์อื่นๆรวมกัน
ในปีนี้บริษัทมองว่าจะมีรายได้รวมที่ 1,500 ล้านบาท โตขึ้น 10% แบ่งออกเป็นในประเทศและต่างประเทศ 50%เท่าๆกัน ซึ่งในภาพรวมของรายได้ แบ่งออกเป็น แบรนด์เซียงเพียว65% และแบรนด์เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ 35%.