ผู้จัดการรายวัน 360 - “โออิชิ” ปรับกลยุทธ์แบรนด์ “ชาบูชิ” ชู 3 โมเดลรุกตลาด เน้นไซส์เล็ก พร้อมรุกเปิด 24 ชั่วโมง และเปิดร้านเช้าขึ้นเป็น 9 โมง
นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์รูปแบบสาขาของชาบูชิใหม่เป็น 3 รูปแบบ
ประกอบด้วย 1. ขนาดเล็กหรือไลต์สโตร์ พื้นที่ 150 ตารางเมตร จากเดิม 300 กว่าตารางเมตร ซึ่งเดิมมีมากกว่า 50% ที่เป็นสาขาเดิมขนาดใหญ่ มี 1 สายพาน เดิม 2-3 สายพาน จุ 48-65 ที่นั่ง เน้นเปิดเมืองรองและเพิ่มสาขาในพื้นที่ใกล้เคียงสาขาเดิม ลงทุนต่ำกว่าเดิม 15-30% เปิดโมเดลนี้แล้ว 7 สาขา
2. แบบไฮบริด มีสายพานผสมกับไม่มีสายพาน บริการได้ทั้งบุฟเฟต์และอะลาคาร์ต ลงทุนต่ำ เปิด 24 ชั่วโมงได้ เปิดสาขาแรกที่สามย่านมิตรทาวน์แบบ 24 ชั่วโมง และ 3. เธียร์พรีเมียม สำหรับลูกค้าที่ต้องการความพรีเมียม และเมนูอาหารมี 2 แบบ คือ แบบราคา 429 บาทต่อคน และ 599 บาทต่อคน เปิดแล้วที่เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว วันที่ 1 พ.ย.นี้
ปัจจุบันชาบูชิโออิชิมี 149 สาขา โดยในปีงบประมาณ 2563 (ต.ค. 62-ก.ย. 63) ตั้งเป้าหมายเปิด 11 สาขา ผสมผสานกันไปในหลายรูปแบบ และส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง 82 สาขา ที่เหลือเป็นภาคอื่นๆ รวมกัน
นายไพศาลกล่าวว่า การเปิดบริการ 24 ชั่วโมงที่ทดลองเปิดบริการสาขาแรกที่สามย่านมิตรทาวน์ได้ผลตอบรับที่ดี หลังทดลองมา 1 เดือนพบว่ามีลูกค้ามาใช้บริการรวมทั้งวัน 23,650 คน หรือจำนวน 8,990 บิล ซึ่งเวลาปกติที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการช่วง 10.00-22.00 น. มีสัดส่วน 54% และช่วงเวลา 22.00 น.เป็นต้นไป 46% ซึ่งหมายความว่าโอกาสที่จะขายได้แต่ไม่เคยขายในตอนกลางคืนหายไปเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนลูกค้า
Sleepless Society) ที่มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง" นายไพศาล กล่าว
ชาบูชิ ถือเป็นแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมอย่างมาก อีกทั้งยังสามารถสร้างการเติบโตทั้งรายได้และกำไรได้อย่างน่าพึงพอใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแผนกลยุทธ์การตลาด 3 ด้าน ประกอบด้วย (1) Driving Organic Growth: มุ่งเน้นสร้างคุณค่าของสินค้าและบริการ เพื่อการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน (2) Driving Operational Excellence : มุ่งเน้นพัฒนากระบวนการทำงานภายในด้านต่าง ๆ และการวางระบบควบคุมการทำงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้า และ (3) Store Expansion : มุ่งเน้นขยายพื้นที่ให้บริการ/สาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ ๆ
ผลประกอบการของโออิชิ กลุ่มอาหาร ช่วง 9 เดือนแรก (ตุลาคม 2561-มิถุนายน 2562) มีรายได้รวม 5,386 ล้านบาท เพิ่ม 11% กำไร 337 ล้านบาท เพิ่ม 214.5% ซึ่งชาบูชิมีสัดส่วนรายได้หลักประมาณ 60%
นายไพศาลกล่าวด้วยว่า สำหรับตลาดรวมร้านอาหารในปี 2561 มีมูลค่า 400,000 ล้านบาท ซึ่งแยกเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าสูงสุด คือ กลุ่มร้านคาเฟ่ มีสัดส่วน 11% มูลค่า 20,000 ล้านบาท, กลุ่มอาหารประเภทต้ม สัดส่วน 11% มูลค่า 19,000 ล้านบาท, กลุ่มไก่ทอด สัดส่วน 11% มูลค่า 18,000 ล้านบาท และอาหารญี่ปุ่น สัดส่วน 11% มูลค่า 18,000 ล้านบาท เติบโต 21%
ผลประกอบการของโออิชิ กลุ่มอาหาร ช่วง 9 เดือนแรก (ตุลาคม 2561-มิถุนายน 2562) มีรายได้รวม 5,386 ล้านบาท เพิ่ม 11% กำไร 337 ล้านบาท เพิ่ม 214.5% ซึ่งชาบูชิมีสัดส่วนรายได้หลักประมาณ 60%
นายไพศาลกล่าวด้วยว่า สำหรับตลาดรวมร้านอาหารในปี 2561 มีมูลค่า 400,000 ล้านบาท ซึ่งแยกเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าสูงสุด คือ กลุ่มร้านคาเฟ่ มีสัดส่วน 11% มูลค่า 20,000 ล้านบาท, กลุ่มอาหารประเภทต้ม สัดส่วน 11% มูลค่า 19,000 ล้านบาท, กลุ่มไก่ทอด สัดส่วน 11% มูลค่า 18,000 ล้านบาท และอาหารญี่ปุ่น สัดส่วน 11% มูลค่า 18,000 ล้านบาท เติบโต 21%
กำลังโหลดความคิดเห็น