xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” ว่าไง! ชาวนาภาคใต้โวย ธ.ก.ส.โอนเงินส่วนต่างประกันรายได้ข้าวแล้วดึงกลับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชาวนาภาคใต้โวยรัฐบาล ธ.ก.ส.โอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีแล้วดึงกลับทันที ทำเดือดร้อนหนัก ยันไปสอบถามสาขาของ ธ.ก.ส.แล้วโบ้ยส่วนกลางเป็นผู้ดำเนินการ ถาม “พาณิชย์” ได้รับคำตอบชาวนาได้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการหากขึ้นทะเบียนถูกต้อง พร้อมขอ “จุรินทร์” เข้ามาช่วยเหลือด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวนาผู้ปลูกข้าวในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ที่เข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวของรัฐบาลว่า หลังจากที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้คิกออฟการโอนเงินส่วนต่างประกันรายได้ข้าวเปลือกให้แก่ชาวนาเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2562 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้โอนเงินเข้ามายังบัญชีจริง แต่หลังจากนั้นได้ดึงเงินกลับไปในทันที ทำให้ชาวนาที่อยู่ใน อ.ระโนด จ.สงขลา และ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช รู้สึกตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น และได้รับความเดือดร้อนเพราะขณะนี้ราคาข้าวก็ไม่ดี พอได้เงินส่วนต่างมาก็ถูกดึงกลับ

ทั้งนี้ ชาวนาได้สอบถามไปยัง ธ.ก.ส.ที่มีสาขาอยู่ในจังหวัด หรือในอำเภอ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดเพราะส่วนกลางเป็นผู้ดำเนินการโอนเงิน ไม่ใช่โอนจากสำนักงานสาขา และเมื่อสอบถามไปยังสำนักงานพาณิชย์จังหวัดก็ได้รับคำชี้แจงว่าชาวนาที่ปลูกข้าวได้รับสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมโครงการอยู่แล้วหากขึ้นทะเบียนและแจ้งระยะเวลาเก็บเกี่ยวข้าวเอาไว้ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกันถึงดึงเงินกลับ จึงต้องการให้นายจุรินทร์ในฐานะที่ดูแลโครงการประกันรายได้ช่วยตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้ชาวนาในพื้นที่ภาคใต้ด้วย

ก่อนหน้านี้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้กำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2562/63 รอบที่ 1 งวดที่ 1 ประจำวันที่ 15 ต.ค. 2562 เพื่อชดเชยส่วนต่างให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวสำหรับผู้ที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 16 ต.ค. 2562 แล้ว โดยจ่ายชดเชยรายได้ให้ข้าวเปลือก 2 ชนิด คือ ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 2,469.64 บาท และข้าวเปลือกหอมปทุมธานีตันละ 783.45 บาท ส่วนอีก 3 ชนิด คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ และข้าวเปลือกเหนียว ไม่ชดเชย

โดยราคาตลาดอ้างอิงที่นำมาใช้ในการคำนวณเพื่อจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 16,723.09 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 15,651.05 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 7,530.369 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 10,216.55 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 18,926.86 บาท

ขณะที่รัฐบาลได้ประกันรายได้ข้าวเปลือกจำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละ 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาท ครัวเรือนละ 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละ 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละ 16 ตัน แต่ถ้าเกษตรกรปลูกข้าวมากกว่า 1 ชนิดจะได้สิทธิไม่เกินจำนวนขั้นสูงของข้าวแต่ละชนิด และเมื่อรวมกันต้องไม่เกินขั้นสูงของข้าวชนิดที่กำหนดไว้สูงสุด

ดังนั้น จากราคาตลาดและราคาประกันรายได้ข้างต้นทำให้ชาวนาจะได้รับเงินส่วนต่างข้าวเปลือก 2 ชนิด คือ ข้าวเปลือกเจ้า ได้เงินรวม 74,089.20 บาท (2,469.64 คูณ 30 ตัน) และข้าวเปลือกหอมปทุมธานีได้เงินรวม 19,586.25 บาท (783.45 คูณ 25 ตัน)


กำลังโหลดความคิดเห็น