xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” จับมือภาครัฐ-เอกชนเดินหน้าแก้ปัญหาอุปสรรคการค้าชายแดนไทย-พม่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“จุรินทร์” เดินหน้าแก้ปัญหาอุปสรรคการค้าชายแดนไทย-พม่า ย้ำสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เปิดใช้งาน 30 ต.ค.นี้ ส่วนการขยายเวลาเปิด-ปิดด่านแม่สอดเตรียมนัดถก 2 ชาติก่อน เผยยังได้เร่งยกระดับด่านการค้า 3 แห่งเป็นด่านถาวร พร้อมรับพิจารณาข้อเสนอภาคเอกชน ทั้งเปิดให้รถบรรทุกพม่าวิ่งเข้ามาได้ลึกขึ้น เร่งออก Form D เพิ่มวันในบอร์ดดิ้งพาส และตั้งเซ็นทรัลแล็บที่แม่สอด

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับภาครัฐ เอกชน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศพม่า เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าชายแดนระหว่างไทยกับพม่า ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่า ที่ประชุมได้ติดตามการเปิดสะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 2 ที่ อ.แม่สอด ซึ่งปัจจุบันมีความชัดเจนว่าจะมีการเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ต.ค. 2562 หลังจากที่ได้มีการลงนามใน MOU เปิดสะพานระหว่างกันไปแล้ว โดยมั่นใจว่าจะทำให้การขนส่งสินค้าระหว่าง 2 ประเทศสะดวกมากขึ้น และจะช่วยเพิ่มมูลค้าการค้าระหว่างกันได้มากขึ้น เพราะปัจจุบันสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 มีความแออัดมาก ทำให้การขนส่งสินค้าไม่สะดวกและมีความล่าช้า ส่วนที่ภาคเอกชนเสนอให้ขยายระยะเวลาการเปิด-ปิดด่านการค้าชายแดนแม่สอด จากเดิมเวลา 05.30-21.30 น. เป็นเวลา 05.30-24.00 น. จะต้องหารือในคณะกรรมการร่วมระหว่าง 2 ประเทศก่อน

ทั้งนี้ ยังได้มีการหารือถึงการยกระดับด่านการค้า 3 จุด ระหว่างไทย-พม่า ได้แก่ ด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด่านห้วยต้นนุ่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน และด่านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี ในส่วนของด่านสิงขร พม่าได้ให้การรับรองผลการสำรวจภูมิประเทศแล้ว กระทรวงการต่างประเทศจะนัดประชุม JBC ในการดำเนินการเปิดด่านต่อไป ส่วนด่านห้วยต้นนุ่น และด่านเจดีย์สามองค์จะต้องสำรวจภูมิประเทศให้แล้วเสร็จก่อน ทั้งนี้ เฉพาะด่านเจดีย์สามองค์ เอกชนต้องการให้ขยายวงเงินสินค้าที่ขนส่งผ่านด่านจากเดิมกำหนดไม่เกินครั้งละ 5 แสนบาท เป็นไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งการจำกัดสิทธิ์ดังกล่าวเป็นประกาศของกองกำลังสุรสีห์ ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศจะทำหนังสือหารือเพื่อให้พิจารณาขยายวงเงิน และเมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะนำมารายงานให้ทราบต่อไป

ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่ภาคเอกชนเสนอ และได้รับที่จะเร่งดำเนินการให้ เช่น ขอให้สามารถนำรถบรรทุกของพม่าข้ามสะพานด่านแม่สอดเข้ามาถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศไทยที่ อ.แม่สอด เพื่อสามารถบรรทุกสินค้าไทยกลับไปพม่าได้สะดวกขึ้น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตากรับไปที่จะหารือร่วมกับอธิบดีกรมการขนส่งทางบกเพื่อดำเนินการให้บรรลุผลต่อไป, การผลักดันการตรวจหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (From D) ขอให้ทางการพม่าดำเนินการเรื่องเอกสาร Form D ได้อย่างรวดเร็วที่ด่านทุกด่าน ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศจะประสานกับทางการพม่าเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ภายในวันที่ 1 ธ.ค. 2562, การอนุญาตให้ผู้ถือบอร์ดดิ้งพาสข้ามแดนไทย-พม่ามีความสอดคล้องเหมาะสมยิ่งขึ้น จากปัจจุบันคนสามารถข้ามมาได้ 7 วัน แต่รถยนต์ข้ามได้ 1 วัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับไปพิจารณา และขอให้มีการจัดตั้งห้องเซ็นทรัลแล็บที่ อ.แม่สอด จากปัจจุบันตั้งอยู่ที่ จ.เชียงใหม่

“หากปัญหาอุปสรรคต่างๆ เหล่านี้แก้ไขได้ทั้งหมดจะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้า และเพิ่มมูลค่าการส่งออก และการค้าชายแดนระหว่างสองประเทศได้มากขึ้น และทำให้การส่งออกในภาพรวมขยายตัวเพิ่มขึ้น” นายจุรินทร์กล่าว

การค้าชายแดนไทย-พม่าในช่วง 8 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่ารวม 133,865.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.73% เป็นการส่งออก 68,907.45 ล้านบาท ลดลง 4.10% และการนำเข้า 64,958.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.08% ไทยได้ดุลการค้า 3,949.12 ล้านบาท โดยมีสินค้าส่งออกจากไทยที่สำคัญ เช่น น้ำมันดีเซล และน้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ ผลิตภัณฑ์เหล็ก เหล็กกล้า ผ้าผืน ด้าย เป็นต้น ขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น ก๊าซธรรมชาติ ธัญพืช สัตว์น้ำ โค กระบือ สุกร แพะ แกะ เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น