xs
xsm
sm
md
lg

โนเกียปรับตัวสู่ผู้ให้บริการสื่อสารครบวงจร “SAMSO” พลังงานทางเลือกที่เป็นพลังงานหลัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


จากการที่ผู้บริหารบริษัท ปตท. ได้ตระหนักถึงแนวคิดในการผลักดันและการนำพลังงานทดแทนมาใช้ในอนาคต จึงได้นำสื่อมวลชนได้ทำการศึกษาและดูงานในสาธารณรัฐฟินแลนด์ นอร์เวย์ และเดนมาร์ก เพื่อศึกษาแนวคิด ของบริษัทเอกชนได้มีการปรับตัวครั้งใหญ่ เพื่อคิดค้นวิธีการนำพลังงานทดแทนมาใช้จนประสบผลสำเร็จ ในการนำพลังงานทดแทนมาใช้ มีวิธีการบริหารจัดการอย่างไร คนในท้องถิ่นและรัฐบาลต้องร่วมกันสนับแนวคิดและลงทุนร่วมกันดำเนินงาน ขณะที่ธุรกิจก็ต้องปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลง

หากไม่มีการปรับตัวให้ทัน ในที่สุดก็จะต้องล้มหายตายจากไปจากธุรกิจ ดังเช่น กรณีศึกษา

บริษัทโนเกีย ธุรกิจมือถือที่ต้องปรับตัวขนานใหญ่ เพื่อให้บริษัทโนเกีย สามารถบุกต่อในธุรกิจสื่อสารต่อไปได้ในอนาคต มองธุรกิจพลังงานในอนาคตอย่างไร ใช้กลยุทธ์อย่างไรในการปรับตัวให้อยู่รอด

โนเกียเริ่มดำเนินธุรกิจอย่างจริงจังเมื่อปี ค.ศ. 1868 ได้มีการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอให้กับลูกค้า จนปัจจุบันกลายมาเป็นบริษัท โทรคมนาคมที่ประสบความสำเร็จ

MR. Martin Hauske ตำแหน่ง Asia Pacific Energy VP ได้อธิบายถึงว่าโนเกียได้ฟันฝ่าอุปสรรค โดยใช้ 4 กลยุทธ์ใน 4 ด้านคือ

1.Lead คือการเป็นผู้นำในด้านงานที่เป็นเลิศ โดยมุ่งเน้นการสร้างความแตกต่าง ด้วยการเป็นผู้ให้บริการสื่อสารแบบครบวงจร และการตั้งเป้าเป็นผู้นำในเครือข่าย 5G

2.Expand เป็นการขยายการขยายด้วยเลือกตลาดแบบเฉพาะเจาะจง ทั้งในอุตสาหกรรมการขนส่ง พลังงาน โลจิสติกส์และการผลิต

3.Build การสร้างธุรกิจซอฟท์แวร์ที่เข้มแข็ง

4.Greate เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการขายนวัตกรรมเทคโนโลยี

นอกจากนี้โนเกียยังได้รับรางวัลโนเบลทั้งหมด 9 รางวัล โดย Bell Labs ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึงของบริษัท Alcatel Lucent ที่โนเกียได้เข้าซื้อกิจการ ได้รับรางวัลโนเบลที่ 9 ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา
โดย Bell Labs ได้มีการวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อบริษัท พลังงานในอนาคต คือการพัฒนาพลังงานทดแทน ประสิทธิภาพของการจัดเก็บพลังงาน และกฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ซึ่งสถานการณ์พลังงานโลกได้มีการเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าราคาพลังงานทดแทนลดต่ำลง เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม
ดังนั้นพลังงานในอนาคตจึงจำเป็นต้องมีการรวมศูนย์ Centralized เพื่อเป็นการจัดการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อรองรับการกระจายการผลิตพลังงานและการกักเก็บ รวมถึงเครือข่ายอัจฉริยะ






Orsted ลดพลังงานฟอสซิลเป็นพลังงานทดแทน


MR. ULRIN STRIDBAEK
ตำแหน่ง Vice k President Head of Regulatory Affairs , Wind Power ของ บริษัท Orsted ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าจากลมที่ใหญ่ที่สุด คิดเป็น 30% ของ 33 GW ของการผลิตทั่วโลก ให้ความเห็นว่าบริษัท มีความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำธุรกิจจากพลังงานฟอสซิส ให้เป็นพลังงานทดแทน เพื่อการพึ่งพาตนเอง

สำหรับวิธีการเปลี่ยนแปลงของบริษัทนั้นได้รับการสนับสนุนแนวความคิดจากรัฐบาล แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนทางการเงิน ทำให้บริษัทต้องขายทรัพย์สินที่เป็นน้ำมัน และก๊าซทั้งหมด บริษัททางการเงิน และการลงทุน เข้ามามีส่วนร่วมในการด้านการเงินช่วงแรก

ส่วนโครงสร้างการถือหุ้นมีรัฐบาลถือหุ้น 50.1 % และมีการกองทุน ภาคเอกชน และเข้าตลาดหุ้น มีพนักงานทั้งหมด 6,080 คน มีรายได้ 11.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีกำไร 11.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งลักษณะของการลงทุนบริษัทมีการลงทุนเอง และร่วมลงทุนกับนักลงทุน โดยจะคัดเลือกเฉพาะโครงการที่ให้ผลตอบแทนสูงและมีศักยภาพเท่านั้น

ทั้งนี้มีเป้าหมายการดำเนินงานคือจะต้องไม่มีการผลิตพลังงานจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ หรือถ่านหินในปี 2050 เพื่อเป็นการดำเนินนโยบายของรัฐบาล

สำหรับสิ่งที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำธุรกิจจนสำเร็จคือ
1. Scale ขนาดของการผลิตที่มากพอเพื่อการเฉลี่ยต้นทุน
2. Industrialization คือการเป็นผู้ผลิตรายเดียว เป็นผู้ใช้เป็นผู้ผลิต
3. Innovation นวัตกรรมชั้นสูงทำให้ต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง

ส่วน Cost Breakdown ของการติดตั้งกังหันลม (wind turbine)
Onshore offshore
•35-40% Wind Turbine * 80% wind Turbine
•15-20% Transmission * 15% Transmission
•5-10% Foundation *5% Foundation
•ความเร็วลมในเดนมาร์กบนบกเฉลี่ย 6-9 เมตร/วินาที นอกชายฝั่ง 9.5-10 เมตร/วินาที


SAMSO ISLNAD พลังงานทางเลือกที่เป็นพลังงานหลัก

MR. JESPER ROUG KRISTENSEN ตำแหน่ง Business Accounting Manager ได้อธิบายว่าเกาะแซมโซมีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 114 ตารางกิโลเมตร ประชากร 3,800 คน ซึ่งไม่สมดุลเพราะมีคนสิ้นอายุขัยปีละ 50 คน ในขณะที่การเกิดปีละ 25 คน มีนักท่องเที่ยวในช่วงเดือน มิ.ย. ถึง ส.ค. ประมาณ 150,000 คน ประกอบด้วยโรงเรียน 3 แห่ง แต่ละแห่งมีนักเรียน ประมาณ 100-200 คน

มีกังหันลมบนบก (Onshore wind turbine) บนบก 11 ตัว ซึง 1 ตัวสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอสำหรับ 630 หลัง มีกังหันลมนอกชายฝั่ง (Offshore wind turbine) 10 ตัว ความสูง 103 เมตร โดยจะตั้งอยู่ฝั่งตะวันตก เนื่องจากลมจะพัดจากตะวันตกมาทางตะวันออกถึง 95% มีโรงไฟฟ้าชีวมวล (straw power plant) 3 แห่ง (Tranebjerg - 263, Ballen/ Brundy - 232, Onbjerg - 76) ซึ่งผลิตไฟฟ้าเพียงพอสำหรับบ้านอีก 571 หลัง มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Plant) ขนาดรวมทั้งสิ้น 2,500 ตารางเมตร ผลิตไฟฟ้าร่วมกับ woodchips Fired Boiler ขนาด 900 KW โดยรวมแล้วปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้ 28,000 mwh ซึ่งเกินกว่าที่ความต้องการที่จะใช้ได้ทั้งเกาะ ซึ่งจะมีสายไฟฟ้าเชื่อมต่อกับเยอรมันตอนเหนือ

การมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีความคิดเห็นที่เหมือนกัน การสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจถึงแผนที่กำลังจะเกิดขึ้น ให้คนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เช่นการเลือกที่ตั้งของกังหันลม เป็นต้น

นอกจากนี้รัฐบาลกลางสนับสนุนค่าไฟฟ้า ที่ 0.43 DKK/kwhr ซึ่งทำให้ปีในการคืนทุนอยู่ที่ 7 ปี ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนเพียง 10 ปีเท่านั้น แต่คนท้องถิ่นต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการลงทุนเพราะเห็นรายได้เพิ่มจากการขายไฟฟ้า ซึ่ง Jesper ได้กล่าวว่าผู้ถือหุ้นของบริษัทท้องถิ่นในการขายไฟฟ้ามีมากถึงเกือบ 600 คน ส่วนรถไฟฟ้าที่ใช้โดยเทศบาล ทำเพื่อตอนสนองนโยบาย none fossil by 2030


บทพิสูจน์การเปลี่ยนแปลง “ความร่วมมือ-การลดต้นทุน-คน”

นโยบายพลังงานหมุนเวียนที่ชัดเจนจะช่วยให้การดำเนินงานของหน่วยงานกำกับดูแล การจัดหาวัตถุดิบ ผู้ผลิต และ ผู้บริโภคสามารถทำได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง ทั้งนี้คือคนในประเทศยินดียอมรับการเปลี่ยนแปลง และให้ความร่วมมือด้วยตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ปัจจัยสำคัญคือการลดต้นทุนเชิงเศรษฐศาสตร์ และสร้างการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานในรูปแบบใหม่ และการมีจิตสำนึกด้านนวัตกรรม เป็นแรงผลักดันที่สำคัญสำหรับการพัฒนาพลังงานชนิดใหม่

สำหรับคนคือปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นที่การตระหนักของตนเอง และขยายสู่การรับรู้ของสังคม สุดท้ายคือการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความยั่งยืนของการใช้พลังงาน ผลตอบแทนในเชิงเศรษฐศาสตร์ เป็นเครื่องมือนำไปสู่ความยั่งยืนของการใช้พลังงาน
โนเกีย ผ่านพ้นทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว


กำลังโหลดความคิดเห็น