“ศักดิ์สยาม” สั่งรวบรวมปัญหาอุปสรรครถไฟไทย-จีน หลังการเจรจาเงื่อนไขสัญญา 2.3 ไม่ยุติ เร่งชง “สมคิด” ช่วยเจรจาจีน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รวบรวมประเด็นและปัญหาต่างๆ ของโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงเพื่อการเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย เนื่องจากยังมีความล่าช้าอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องการเจรจาในสัญญา 2.3 (งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและฝึกอบรมบุคลากร) ซึ่งไทยยืนยันว่าการก่อสร้างโครงการของไทยจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทย เช่น การประกันผลงาน ฝ่ายจีนเสนอระยะเวลา 1 ปี ขณะที่กฎหมายไทยต้อง 2 ปี เป็นต้น
“ผมให้รวบรวมปัญหาทุกเรื่องเพื่อนำหารือกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ช่วยผลักดัน เนื่องจากเป็นเรื่องระหว่างไทย-จีน หากได้ข้อยุติ กระทรวงคมนาคมพร้อมปฏิบัติต่อไป ซึ่งจะนำรายงานต่อ ครม.ในวันที่ 13 ส.ค.นี้ นอกจากนี้ รองนายกฯ สมคิดยังได้ให้รายงานทุกโครงการที่มีข้อติดขัดเพื่อช่วยกันแก้ปัญหา เนื่องจากต้องการให้ทุกรัฐวิสาหกิจเร่งเพื่อประสิทธิภาพ และหากแห่งใดมีศักยภาพในการลงทุนให้เร่งดำเนินการ” นายศักดิ์สยามกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า รถไฟไทย-จีน สัญญา 2.3 (งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและฝึกอบรมบุคลากร) กรอบวงเงิน 50,633.50 ล้านบาท ล่าสุด ร.ฟ.ท.ได้ส่งร่างสัญญาให้ฝ่ายจีนพิจารณาแล้ว ส่วนประเด็นเงื่อนไข ค่าปรับ คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้พิจารณาไปแล้ว เหลือยังไม่เรียบร้อยในเรื่องการประกันผลงาน เบื้องต้นจีนจะยอมรับการปฏิบัติตามกฎหมายไทยแต่ยังไม่ได้ข้อยุติทั้งหมด
รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนการก่อสร้างงานโยธา กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงินลงทุน 179,421 ล้านบาท อยู่ระหว่างประมูลด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) จำนวน 12 สัญญา วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท โดยขณะนี้เคาะราคาแล้ว 2 สัญญา เตรียมเสนอบอร์ด ร.ฟ.ท.อนุมัติเพื่อลงนามสัญญาผู้รับเหมา และอยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติผู้ชนะประมูลอีก 3 สัญญา ส่วนอีก 6 สัญญาจะเปิดเคาะราคาประมูลในวันที่ 31 ส.ค.