“ชุติมา” ลุยล็อบบี้อินเดียถึงบ้าน ตั้งเป้าดันเจรจาอาร์เซ็ปจบปีนี้

"ชุติมา" ควงเลขาธิการอาเซียน รัฐมนตรีการค้าอินโดนีเซีย ลุยถึงอินเดีย ล็อบบี้หาข้อสรุปการเจรจาอาร์เซ็ป หวังดันให้การเจรจาจบปีนี้ตามเป้าหมาย และประกาศความสำเร็จในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนให้ได้ ด้านการเจรจาล่าสุด สรุปเพิ่มในภาคผนวกโทรคมนาคม การเงิน ส่วนกฎถิ่นกำเนิดสินค้าเฉพาะรายการ ตกลงได้เพิ่มอีก 423 สินค้า ทำให้ภาพรวมทำได้แล้ว 79% คาดสรุปได้เร็วๆ นี้ ส่วนการเปิดตลาด สมาชิกยื่นข้อเสนอเปิดตลาดใหม่แล้ว แต่ยังต้องเจรจาเพิ่มอีก

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 7-10 ก.ค. 2562 ได้เดินทางเยือนอินเดีย โดยมีเลขาธิการอาเซียน และรัฐมนตรีการค้าของอินโดนีเซีย ในฐานะผู้ประสานงานคณะกรรมการเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) เดินทางไปด้วย เพื่อผลักดันให้อินเดียร่วมหาข้อสรุปในประเด็นสำคัญของการเจรจาอาร์เซ็ปให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะการเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุน, การคุ้มครองการลงทุน และกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการเปิดตลาด ซึ่งไทยในฐานะประธานอาเซียน และประธานการประชุมระดับรัฐมนตรีของอาร์เซ็ป จะประสานท่าทีระหว่างสมาชิกอาร์เซ็ป เพื่อให้ได้ข้อสรุปในปีนี้ให้ได้ และตั้งเป้าหมายจะประกาศความสำเร็จของการเจรจาในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียนซัมมิต) ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในเดือน พ.ย. 2562 ที่กรุงเทพฯ

"การประชุมครั้งนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะจะเป็นการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกันของอาเซียนกับอินเดีย ภายหลังจากอินเดียมีรัฐมนตรีพาณิชย์และอุตสาหกรรมคนใหม่ ก่อนที่สมาชิกทั้ง 16 ประเทศจะมีการเจรจาคณะกรรมการเจรจาอาร์เซ็ป ที่เจิ้งโจว ประเทศจีน ในช่วงปลายเดือน ก.ค.นี้ และการประชุมระดับรัฐมนตรีอาร์เซ็ป ที่ปักกิ่ง วันที่ 3 ส.ค. 2562" น.ส.ชุติมากล่าว

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาการพาณิชย์ และหัวหน้าคณะผู้แทนไทย กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการเจรจาอาร์เซ็ป ครั้งที่ 26 ระหว่างวันที่ 25 มิ.ย.-3 ก.ค. 2562 ที่เมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลีย ว่า การประชุมรอบนี้สามารถสรุปข้อบทในภาคผนวกโทรคมนาคม และภาคผนวกการเงินได้ทั้งหมด เพียงแต่รอการยืนยันจากสมาชิก และยังสามารถตกลงรายการสินค้าสำหรับกฎถิ่นกำเนิดเฉพาะรายการสินค้าเพิ่มเติมได้อีก 423 รายการ ทำให้ขณะนี้ตกลงกันได้แล้ว 79% ของรายการสินค้าทั้งหมด คาดว่าจะสรุปผลการเจรจากฎถิ่นกำเนิดสินค้าเฉพาะรายสินค้าได้ตามแผน รวมถึงสามารถหาข้อสรุปประเด็นสำคัญในเรื่องการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองได้

ส่วนการเจรจาเปิดตลาดมีความคืบหน้ามากขึ้น โดยสมาชิกส่วนใหญ่ได้ยื่นข้อเสนอเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุน ตามที่ได้ปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้นแล้วตามที่สมาชิกได้เรียกร้อง และสมาชิกส่วนใหญ่ได้ตอบรับข้อเสนอระหว่างกันเพิ่มขึ้นในเรื่องการเปิดตลาด แต่ยังมีบางประเด็นที่ต้องเจรจากันต่อ สำหรับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา การเยียวยาทางการค้า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมาย มีความคืบหน้าตามลำดับ