xs
xsm
sm
md
lg

กรมเจรจาฯ จับมือสภาเกษตรกรแห่งชาติ ลงพื้นที่ติวเข้มเกษตรกรศรีสะเกษใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศผนึกกำลังสภาเกษตรกรแห่งชาตินำทีมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ผลักดันเกษตรกรใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ มีสินค้าเป้าหมาย “ชาหอมแดง ทุเรียน มังคุด สมุนไพร และผ้าไหมย้อมมะเกลือ” มั่นใจช่วยเสริมแกร่งให้เกษตรกรมีโอกาสทำมาค้าขายได้เพิ่มขึ้น

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ จะลงพื้นที่ร่วมมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ พบปะเกษตรกรในจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อจัดการเสวนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “ช่องทางรวยของสินค้าเกษตรจากเอฟทีเอ” และ “ทำอย่างไรให้สินค้าเกษตรสู่ตลาดต่างประเทศ” ระหว่างวันที่ 17-19 มิ.ย. 2562 ณ โรงแรมแกลเลอรี่ ดีไซน์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ เกษตรกรใน 3 จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร ซึ่งมีสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพในพื้นที่ เช่น ชาหอมแดง ทุเรียน มังคุด พืชสมุนไพร ผ้าไหมเก็บย้อมมะเกลือ เป็นต้น และยังได้เปิดโอกาสให้เกษตรกรนำสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมาให้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าและการตลาดวิเคราะห์และแนะนำช่องทางการตลาดส่งออกที่เหมาะสมให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ

“มั่นใจว่าจะช่วยยกระดับสินค้าเกษตรของชุมชนตลอดห่วงโซ่การผลิตให้ได้คุณภาพและมาตรฐานสากล รวมถึงเป็นการขยายช่องทางการจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน” นางอรมนกล่าว

ที่ผ่านมากรมฯ ได้ร่วมมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติดำเนินโครงการ “เพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี” ตลอดปี 2562 รวม 6 ครั้งในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เน้นการพัฒนาสินค้าเกษตรเพื่อสุขภาพและปลอดภัย (Food Health and Safety) เพื่อเพิ่มช่องทางการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปตลาดโลกด้วยเอฟทีเอที่ไทยจัดทำกับประเทศคู่ค้า ตลอดจนสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงเอฟทีเอ กฎระเบียบทางการค้า มาตรการทางภาษีและมาตรการที่มิใช่ภาษี รวมถึงการเพิ่มมูลค่าสินค้าโดยการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์สู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า โดยได้ลงพื้นที่ไปแล้ว 4 ครั้งในจังหวัดอุดรธานี ปราจีนบุรี แม่ฮ่องสอน และสุโขทัย ซึ่งประสบความสำเร็จได้การตอบรับอย่างดีจากเกษตรกรในทุกพื้นที่

ปัจจุบันมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับประเทศคู่เอฟทีเอ 18 ประเทศ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา โดยปี 2561 ไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปตลาดโลกมูลค่ากว่า 2.31 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการส่งออกไปประเทศคู่ค้าเอฟทีเอ มูลค่า 1.47 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 64% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด มีตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญ คือ จีน อาเซียน และญี่ปุ่น สำหรับผลไม้ พบว่าประเทศคู่ค้าเอฟทีเอของไทยส่วนใหญ่ลดภาษีนำเข้าเหลือ 0% แล้ว โดยในปี 2561 ผลไม้ไทยมีมูลค่าส่งออกสูงถึง 88,000 ล้านบาท สินค้าผลไม้หลัก คือ ทุเรียน ลำไย มังคุด และมะม่วง ตลาดส่งออกสำคัญเช่น จีน เวียดนาม และฮ่องกง


กำลังโหลดความคิดเห็น