“พาณิชย์”จ่อเชือดรพ.เอกชนอีก 1 ราย หลังผู้บริโภคร้องคิดค่ารักษาเกินจริง เผยเชิญให้มาชี้แจงแล้ว หากเคลียร์ไม่ได้ ส่งตำรวจทันที หลังฟันไปแล้ว 2 กรณีก่อนหน้านี้ ระบุยอดร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมขีดเส้นให้แจ้งราคายาถึง 12 ก.ค.นี้ ก่อนนำขึ้นเว็บไซต์ ย้ำหากพบรายใดมีราคาสูงเกินจริง จะเรียกมาชี้แจง แย้มเตรียมเข้าดูแลคลินิก โรงพยาบาลสัตว์คิวต่อไป
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ล่าสุด กรมฯ ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคว่าโรงพยาบาลเอกชนอีก 1 แห่ง คิดว่ารักษาเกินจริง โดยได้เชิญโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้มาชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว หากไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเหตุใดจึงคิดราคายาและค่ารักษาพยาบาลสูงเกินไป หรือชี้แจงแล้วไม่สมเหตุสมผล จะดำเนินการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที โดยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 มาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะเป็นการแจ้งความเพิ่มเติม จากที่ก่อนหน้านี้ กรมฯ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับโรงพยาบาลเอกชนรายหนึ่ง เพราะคิดค่ารักษาอาการท้องเสีย และค่ายาสูงเกินจริงไปแล้ว
ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังมีประชาชนจำนวนมากได้ร้องเรียนเข้ามาที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 เกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแล้วคิดค่ายาและค่ารักษาพยาบาลสูงเกินจริง ซึ่งกรมฯ อยู่ระหว่างการทยอยตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการคิดราคาสูงเกินจริง ก็จะเรียกมาชี้แจง
นายวิชัยกล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ฉบับที่ 52 ที่กำหนดให้โรงพยาบาลต้องแจ้งราคาซื้อขายยา เวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์มาให้กรมฯ นั้น ขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนอยู่ระหว่างการส่งราคา โดยมีกำหนดวันสุดท้าย คือ วันที่ 12 ก.ค.2562 ซึ่งหากได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว ก็จะนำราคาขึ้นไปใส่ไว้ในเว็บไซต์ของกรมฯ และจัดทำเป็น QR Code ส่งให้โรงพยาบาลเอกชนนำไปติดไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคตรวจสอบ
“หลังจากได้ข้อมูลราคายามาครบถ้วนแล้ว กรมฯ ก็จะมาวิเคราะห์ดูว่าสอดคล้องกับที่โรงพยาบาลเอกชนส่งข้อมูลมาก่อนหน้านี้หรือไม่ เพราะที่เคยได้ข้อมูลเดิม ยาบางชนิดมีส่วนต่างราคาซื้อและขายสูงถึง 29.33%-8,766.79% และมีกำไรตั้งแต่ 47.73- 16,566.67% เช่น ยาพาราเซตามอล เม็ดละ 2-5 บาท แต่ขายเม็ดละ 200 บาท หรือยามะเร็งบางชนิด 1 โดส ราคา 2 แสนบาท แต่คิด 8 แสนบาท ซึ่งไม่รู้ว่าคิดจากอะไร อาจจะรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเภสัชกร ค่าแอร์ ค่าเก็บสต๊อก ค่าลงทุนต่างๆ มาไว้ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ โดยจะต้องเชิญมาให้ชี้แจงต่อไป”
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กรมฯ ได้กำหนดมาตรการกำกับดูแลโรงพยาบาลเอกชนไปแล้ว ต่อไปจะเข้าไปดูแลค่ายาและค่ารักษาพยาบาลของคลีนิคเอกชน และโรงพยาบาลสัตว์ เพราะผู้บริโภคหลายรายได้ร้องเรียนว่าคิดค่ายา และค่ารักษาสูงเกินจริงเช่นเดียวกันกัน อีกทั้งยังไม่ปิดป้ายแสดงราคาให้ผู้บริโภคเห็นชัดเจน โดยเฉพาะสถานรักษาพยาบาลสัตว์