กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจับมือ “แกร็บ” เพิ่มช่องทางการจำหน่ายอาหารให้กับร้าน Thai SELECT นำร่อง 101 ร้าน และร้านอาหารในกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ 22 ร้าน หวังใช้เทคโนโลยีเพิ่มยอดขายให้ร้านค้า และเจาะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่และนักท่องเที่ยวที่นิยมสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ลงนามความร่วมมือกับ แกร็บ ประเทศไทย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนประชาสัมพันธ์ร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT และร้านอาหารในกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ให้เป็นที่รู้จัก โดยอาศัยช่องทางดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงจากผู้บริโภคทั้งในประเทศ กลุ่มนักท่องเที่ยว ผ่านบริการ แกร็บฟู้ด บนแอปพลิเคชัน แกร็บ ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ ช่วยเพิ่มยอดขาย และช่วยให้ผู้บริโภคได้บริโภคอาหารที่มีคุณภาพมาตรฐานเพิ่มขึ้น
“กรมฯ ได้ร่วมมือกับแกร็บในการขยายโอกาสในการทำตลาดให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT โดยระยะแรกจะเริ่มที่ 101 ร้าน และร้านอาหารในกลุ่มแฟรนไชส์อีก 22 ร้านในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ และจะขยายจำนวนร้านค้าให้เพิ่มมากขึ้นและครอบคลุมพื้นที่อื่นๆ ต่อไป”นายวุฒิไกรกล่าว
นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บฟู้ด มีความพร้อมในการเข้ามาสนับสนุนและเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้เติบโตและเข้าถึงผู้บริโภคอย่างครอบคลุมเพิ่มมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีของแกร็บ ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการ ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว ที่สามารถสั่งอาหารได้อย่างรวดเร็ว และมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับร้านอาหาร Thai SELECT และร้านอาหารที่เป็นแฟรนไชส์ได้ โดยแกร็บได้ให้สิทธิพิเศษช่วยทำแคมเปญการตลาด และนำร้านอาหารให้เห็นได้ชัดเจน เมื่อเข้าผ่านแอปฯ ทำให้ผู้บริโภคมองเห็นและเลือกสั่งซื้อได้ทันที โดยคิดค่าอาหารตามจริง และบวกเพิ่มค่าขนส่งเริ่มต้นที่ 10 บาท
ทั้งนี้ แกร็บมั่นใจว่าการให้บริการรับคำสั่งซื้ออาหารและให้บริการส่งอาหาร จะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยปีที่แล้วทั้งปี แกร็บฟู้ดมีออเดอร์ 3 ล้านคำสั่งซื้อ ปีนี้แค่ 3 เดือนกว่าๆ มีออเดอร์แล้ว 4 ล้านคำสั่งซื้อ และได้ตั้งเป้าทั้งปี 20 ล้านคำสั่งซื้อ เพราะแกร็บกำลังจะขยายพื้นที่การให้บริการจากปัจจุบันที่มี 2 แห่งที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ จะเพิ่มอีก 4 แห่ง ที่ขอนแก่น นครราชสีมา หาดใหญ่ และพัทยา