xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ประเมินมะกันขึ้นภาษีจีน 25% ส่งออกกระทบน้อย-ย้ำมีแผนรับมือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“พาณิชย์” ประเมิน “ทรัมป์” ขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็น 25% ไม่กระทบส่งออกไทยเพิ่ม เพราะได้รับผลกระทบไปแล้วเมื่อปี 61 แต่จะเป็นโอกาสมากกว่า เหตุส่งออกไปสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น แม้ส่งออกไปจีนลด มูลค่าน่าจะชดเชยกันได้ ยันมีแผนบุกเจาะตลาดเชิงรุกมากขึ้น พร้อมนัดประชุมทูตพาณิชย์ 31 พ.ค.นี้ประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ วานนี้ (8 พ.ค.) ว่า ได้ร่วมกันติดตามสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่มีแนวโน้มว่าสหรัฐฯ อาจปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจาก 10% เป็น 25% ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.นี้ แต่จากการประเมินของกระทรวงพาณิชย์ พบว่าหากสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีจริงอาจไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในปีนี้มากขึ้นกว่าที่ได้รับผลกระทบไปแล้วเมื่อปี 2561 เพราะปี 2561 สหรัฐฯ ได้ขึ้นภาษีสินค้าจากจีนเป็น 10% และการส่งออกไทยได้รับผลกระทบไปแล้ว หากปรับขึ้นอีกจะไม่กระทบต่อการส่งออกไทยเพิ่มขึ้นมากนัก

“ถ้าสหรัฐฯ ขึ้นภาษีเป็น 25% จริงก็ต้องดูว่าเป็นสินค้าอะไรบ้าง ถ้าเป็นรายการเดิมที่ขึ้นไป 10% เมื่อปีที่แล้ว การส่งออกไทยไม่น่าได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นอีก แต่ถ้าเป็นรายการใหม่ๆ ต้องมาดูกันอีกที แต่เชื่อว่าไทยน่าจะมีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเป็นอุปสรรค เพราะสหรัฐฯ จะนำเข้าจากไทยมากขึ้นเพื่อทดแทนสินค้าจีน โดยมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นน่าจะชดเชยมูลค่าส่งออกไปจีนที่ลดลงได้”

ทั้งนี้ ในปี 2561 ไทยส่งออกไปจีนได้มูลค่า 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าส่งออกลดลงในสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของจีน เช่น ยานพาหนะและส่วนประกอบ ของใช้ในบ้าน ออฟฟิศ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์และแผงวงจรเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรกล ส่วนสหรัฐฯ ไทยส่งออกได้มูลค่า 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสหรัฐฯ นำเข้าจากไทยเพื่อทดแทนสินค้าจีนที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษี เช่น ยานพาหนะและส่วนประกอบ เครื่องประดับ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์และวงจร เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรและส่วนประกอบ และอาหารปรุงแต่งและเครื่องดื่ม และเมื่อพิจารณาสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า พบว่า ทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยลดลง 779 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 0.3% ของมูลค่าการส่งออกทั้งปี 2561 ที่ส่งออกได้มูลค่า 252,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้มีการหาตลาดใหม่รองรับสินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ามาอย่างต่อเนื่องแล้ว และปัจจุบันกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดทำแผนรุกตลาดส่งออกเพิ่มเติม โดยจะเน้นบุกเจาะตลาดที่เป็นมณฑล รัฐ และเมืองรองมากขึ้น ทั้งในสหรัฐฯ จีน อินเดีย รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่สินค้าไทยมีโอกาส ขณะเดียวกัน จะประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำประเทศต่างๆ ทั่วโลกวันที่ 31 พ.ค. 2562 เพื่อประเมินสถานการณ์ส่งออก รวมถึงแผนผลักดันการส่งออกเมืองรองด้วย

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า สินค้าไทยที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ามากจะเป็นสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของจีน ถ้ามีการขึ้นภาษีจริงจะทำให้สินค้าในกลุ่มนี้ของไทยได้รับผลกระทบ ซึ่งไทยต้องหายุทธวิธีในการแก้ปัญหาในระยะยาว ส่วนสินค้าไทยที่มีโอกาสทดแทนสินค้าสหรัฐฯ ในจีนเพิ่ม ถ้ามีการขึ้นภาษีเป็น 25% ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร เช่น เนื้อสัตว์ ปลาและอาหารทะเล ผลไม้ กาแฟ ชา ไขมัน ของปรุงแต่ง ซอสต่างๆ เครื่องดื่ม น้ำตาล และขนมทำจากน้ำตาล เป็นต้น และไทยยังมีโอกาสส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนสินค้าจากจีนที่ถูกขึ้นภาษี เช่น ยานพานหะและส่วนประกอบ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องประดับ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์และวงจร เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรและส่วนประกอบ และอาหารปรุงแต่งและเครื่องดื่ม


กำลังโหลดความคิดเห็น