xs
xsm
sm
md
lg

เคาะมาตรการคุมยา-บริการแพทย์ จ่อชง กกร. 10 พ.ค. สั่งปิดป้ายราคา-ขึ้นเว็บ-ซื้อยานอกโรงพยาบาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการกำกับดูแลยาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์เคาะมาตรการดูแลแล้ว เตรียมชง กกร. 10 พ.ค.สั่งโรงพยาบาลเอกชนปิดป้ายแสดงราคา นำราคายาขึ้นเว็บไซต์ และเปิดทางให้ผู้ป่วยนำใบสั่งยาไปซื้อยานอกโรงพยาบาลได้ พร้อมชงตั้งคณะอนุกรรมการดูแลกรณีโอเวอร์เซอร์วิสแล้วคิดราคาเพิ่ม

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการกำกับดูแลยาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์วันที่ 7 พ.ค.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาข้อมูลที่คณะทำงานศึกษาโครงสร้างต้นทุนที่มีอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธาน ที่ได้เสนอต้นทุนราคายาให้พิจารณา โดยมีผลการศึกษาวิเคราะห์ราคายาจากรายการยาในบัญชีนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่ (UCEP) ที่มีรายการยาที่จำเป็นอยู่ 3,892 รายการ จากบัญชีข้อมูลรายการยาและรหัสยามาตรฐานของไทย (TMT) ที่มีอยู่ 30,103 รายการ พบว่าโรงพยาบาลเอกชนมีต้นทุนยาแตกต่างกัน แต่ก็ใกล้เคียงกัน แต่มีราคาจำหน่ายแตกต่างกันมากแม้จะเป็นยาชนิดเดียวกัน โดยมีกำไรตั้งแต่ไม่มากจนสูงถึงระดับ 300%, 500%, 800% และ 900%

สำหรับมาตรการที่จะเสนอให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) พิจารณาในวันที่ 10 พ.ค. 2562 จะเป็นมาตรการที่จะนำมาใช้ภายใต้กฎหมายที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีอยู่ ทั้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงสาธารณสุข แต่มีหลัก คือ ต้องเป็นธรรมทั้งกับผู้ประกอบการและผู้บริโภค ซึ่งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มี พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ที่สามารถกำหนดให้มีการปิดป้ายแสดงราคา หากมีการจำหน่ายเกินราคาก็จะมีโทษตามกฎหมาย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเห็นว่ายังขาดข้อมูลเกี่ยวกับรายการเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ จึงได้มอบหมายให้คณะทำงานไปพิจารณาจัดทำฐานข้อมูลให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับข้อมูลยาที่มีอยู่ โดยปัจจุบันมีข้อมูลเวชภัณฑ์ประมาณ 868 รายการ และบริการทางการแพทย์ 5,286 รายการ

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า มาตรการที่คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณา และจะนำเสนอให้ กกร.พิจารณาในวันที่ 10 พ.ค. 2562 ก็คือ การกำหนดให้โรงพยาบาลเอกชนเผยแพร่ราคายา เวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์บนเว็บไซต์ของโรงพยาบาล และต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และให้โรงพยาบาลยอมให้ผู้ป่วยนำใบสั่งยาไปซื้อจากภายนอกได้ โดยในใบสั่งยาแพทย์ต้องเขียนชื่อยาให้ชัดเจน ทั้งชื่อทางการค้า ชื่อทางวิทยาศาสตร์

นอกจากนี้ จะเสนอให้ตั้งคณะอนุกรรมการดูแลให้ความเป็นธรรมบริการทางการแพทย์ ซึ่งในส่วนกลางมีอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธาน ในต่างจังหวัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีหน้าที่ในการดูแลและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภคกรณีการเข้าไปรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนแล้วถูกคิดค่าบริการจากการให้บริการเกินความจริง เช่น ปวดท้อง ปวดหัว แต่จับทำซีทีสแกน (การถ่ายภาพโดยการฉายรังสีผ่านอวัยวะ) ทำให้ถูกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มและเกินจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคร้องเรียนเข้ามามาก


กำลังโหลดความคิดเห็น