“พาณิชย์” ทำแคมเปญโปรโมตข้าวไทยผ่านสื่อออนไลน์-นิตยสารระดับโลก

"พาณิชย์" ทำแคมเปญ "Think RICE , Think THAILAND" 8 ภาษา เผยแพร่จุดขายของข้าวไทยและนวัตกรรมข้าวไทย เตรียมโปรโมตผ่านสื่อออนไลน์และนิตยสารชั้นนำระดับโลก พร้อมดีเดย์จัดพีอาร์บนสายการบินไทย และ 14 สนามบินทั่วประเทศ เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว มี.ค.-พ.ค.นี้ เผยยังได้เดินหน้าผลักดันข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการและนวัตกรรมจากข้าวให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศได้จัดทำแคมเปญ "Think RICE , Think THAILAND : We Serve the Best Quality Rice to the World." เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นในตลาดโลก และสร้างการตระหนักรับรู้ในเรื่องภาพลักษณ์และคุณสมบัติที่ดีของข้าวไทยและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทย ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นความต้องการบริโภค พร้อมทั้งผลักดันให้เกิดการขายข้าวในเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ ที่จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างโอกาสในการส่งออกข้าวไทยและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากข้าวไทยไปสู่ตลาดโลกได้เพิ่มมากขึ้น

สำหรับแคมเปญดังกล่าวเป็นการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของข้าวไทย ความหลากหลายของพันธุ์ข้าวไทย มาตรฐานข้าวไทย ตลอดจนการนำข้าวมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทย ตอกย้ำให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ และสร้างการจดจำ โดยจัดทำเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบของสารคดีสั้น จำนวน 7 เรื่อง 8 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี สเปน อาหรับ และภาษาไทย พร้อมทั้งนำเสนอบทความและบทสัมภาษณ์จำนวนกว่า 30 เรื่อง ผ่านสื่อออนไลน์กว่า 100 เว็บไซต์ทั่วโลก รวมถึง YouTube และ Facebook : Think Rice Think Thailand รวมถึงเผยแพร่ทางนิตยสารชั้นนำของโลก เช่น The Economist, What's on Dubai, Wine & Dine, New York Times Chinese และ Food Network ของสหรัฐฯ ตลอดจนการจัดทำสกู๊ปพิเศษแนะนำเมนูที่ทำมาจากข้าวไทยผ่าน Asia Food Channel

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ค. 2562 จะเริ่มแคมเปญด้วยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อบนเครื่องบิน ได้แก่ สื่อ Inflight entertainment ในทุกๆ เที่ยวบินของการบินไทย พร้อมลงบทความในนิตยสารสวัสดี และนิตยสาร Travel 3 Sixty ของสายการบินแอร์เอเชีย รวมถึงจอ LED ใน 14 สนามบินทั่วประเทศ หวังเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาต่อเครื่องและเข้ามาในประเทศไทย รวมทั้งผู้บริโภคต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เชิญ Bloggers / Influencers จากแวดวงอาหาร ท่องเที่ยว สุขภาพระดับโลกมาเยือนประเทศไทย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกับข้าวไทย สัมผัสเมนูอาหารไทยสุดพิเศษ ตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารคาว น้ำซุป เครื่องปรุงรส และขนมหวาน โดยเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านข้าวและอาหารไทย ซึ่ง Bloggers / Influencers ได้นำข้อมูลไปเขียนรีวิวผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้าวไทยและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทย ทำให้ข้าวไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น

น.ส.ชุติมากล่าวว่า กระทรวงฯ ยังมีแผนส่งเสริมและผลักดันข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ เช่น ข้าวกล้องงอกที่มีกาบา ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลาง และความจำเสื่อม ข้าวไรซ์เบอร์รี มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น เบตาแคโรทีน แกมมาโอไรซานอล วิตามินอี แทนนิน รวมถึงธาตุสังกะสีและโฟเลต ข้าวสินเหล็ก มีปริมาณธาตุเหล็กสูง ข้าว กข 43 ที่เป็นข้าวพื้นนิ่มมีค่าการแตกตัวเป็นน้ำตาลน้อยและมีค่าดัชนีน้ำตาลปานกลางค่อนไปทางต่ำ คาร์โบไฮเดรตของข้าวมีลักษณะที่ทนต่อการย่อยได้ดีกว่าข้าวอมิโลสต่ำพันธุ์อื่น ถือเป็นข้าวทางเลือกของผู้ใส่ใจสุขภาพ รวมถึงข้าวอินทรีย์ชนิดต่างๆ

ขณะเดียวกัน จะเร่งส่งเสริมและใช้นวัตกรรมในการต่อยอดข้าวให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วและใส่ใจในสุขภาพมากยิ่งขึ้น เช่น อาหารพร้อมรับประทาน ในรูปแบบถ้วย ซอง กระป๋อง ซุปข้าวพร้อมรับประทาน โจ๊กข้าวกล้อง ซีเรียลบาร์ อาหารเพื่อสุขภาพ อย่างเช่น น้ำนมข้าวออร์แกนิก น้ำมันรำข้าวสกัดเย็น ผงข้าวกล้องสกัดพร้อมชงดื่ม อาหารเสริมจากน้ำมันรำข้าว รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหาร เช่น เครื่องสำอาง ในรูปแบบครีมบำรุงผิวหน้าจากสารสกัดจากสเต็มเซลล์ข้าว เซรัมข้าว แชมพู ครีมนวดผมผสมสารสกัดจากข้าวสังข์หยด ผงล้างหน้าจากข้าว สบู่ข้าว และวัสดุทางการแพทย์ แผ่นห้ามเลือดจากแป้งข้าว วัสดุแปะแผลจากเส้นใยนาโนเซลลูโลสจากข้าว ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าทางการตลาดได้กว่า 2 พันเท่า