“พาณิชย์” บุกตรวจสอบโรงงานไม้อัด หลังได้เบาะแสนำสินค้าจากที่อื่นมาสวมสิทธิ์ส่งออกไปสหรัฐฯ ป้องกันผู้ส่งออกจริงกระทบ หากถูกสหรัฐฯ ใช้มาตรการตอบโต้ เผย ศุลกากรสหรัฐฯ ยังชี้เป้าให้ตรวจสอบน้ำผึ้งด้วย หลังยอดส่งออกพุ่ง ส่วนสินค้าอื่นที่ต้องจับตา มีทั้งแผงโซลาร์เซลล์ ตะปู ใบเลื่อย
นางมนัสนิตย์ จิรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับการประสานจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ขอให้เข้าไปตรวจสอบโรงงานไม้อัดของไทย ว่า มีความผิดปกติหรือไม่ เพราะมีข้อมูลตัวเลขการส่งออกไม้อัดไปสหรัฐฯ มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จึงเกรงว่า อาจมีการนำเข้าไม้อัดจากประเทศอื่น และนำมาแอบอ้างแหล่งกำเนิดสินค้าจากไทย (สวมสิทธิ์) และส่งออกไปสหรัฐฯ เนื่องจากไม้อัดเป็นสินค้ากลุ่มเสี่ยงที่กรมศุลกากรสหรัฐฯ จับตามองว่า อาจะมีการสวมสิทธิ์และส่งออกไปยังสหรัฐฯ โดยเฉพาะไม้อัดจากจีนที่ถูกสหรัฐฯ ใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) เรียกเก็บภาษีนำเข้า แต่สินค้าไม้อัดจากไทยไม่ถูกใช้มาตรการเอดีจากสหรัฐฯ
“กรมฯ ได้เข้าไปสุ่มตรวจโรงงานไม้อัดแล้ว 4 โรงงาน ยังไม่พบความผิดปกติ แต่ก็ต้องเฝ้าระวังต่อไป โดยยังมีอีกหลายโรงงานที่นำเข้าไม้อัดเข้ามา ส่วนใหญ่ใช้ในอุตสาหกรรมภายในประเทศ ก็ต้องคอยเข้าไปตรวจสอบว่าโรงงานไหนมีการนำเข้ามามากๆ มีความเสี่ยงต่อการหลบเลี่ยงแหล่งกำเนิดสินค้าและส่งออกไปสหรัฐฯ หรือไม่ เพราะหากมีการทำจริง จะกระทบกับผู้ส่งออกที่ส่งออกจริง ถ้าถูกสหรัฐฯ ใช้มาตรการตอบโต้ โดยมีข้อมูลปี 2561 ว่า มีการนำเข้าไม้อัดจากจีน 4 แสนตัน และนำมาผลิตสินค้าที่เกี่ยวเนื่องและใช้ภายในประเทศประมาณ 3 แสนตัน อีก 1 แสนตันมีการส่งออกไป” นางมนัสนิตย์ กล่าว
นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีแผนที่จะสุ่มตรวจโรงงานที่มีการผลิตสินค้าหรือนำเข้าสินค้าจากประเทศที่ถูกสหรัฐฯ ใช้มาตรการเอดีเพิ่มเติมด้วย โดยล่าสุดกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลหลังจากที่กรมศุลกากรสหรัฐฯ แจ้งว่ามีข้อสงสัยว่าการส่งออกน้ำผึ้งจากไทยไปตลาดสหรัฐฯ อาจมีการแอบอ้างแหล่งกำเนิดสินค้า เพราะมีปริมาณการส่งออกน้ำผึ้งไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งกรมฯ จะเข้าไปตรวจสอบโรงงานผลิตน้ำผึ้งของไทยว่ามีการนำเข้าน้ำผึ้งจากแหล่งอื่นมาแอบอ้างแหล่งกำเนิดสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ หรือไม่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลตัวเลขอยู่ ส่วนสินค้าที่ยังคงต้องเฝ้าระวังเรื่องการสวมสิทธิ์ว่าจะมีการส่งออกไปสหรัฐฯ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ ตะปู ใบเลื่อย เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ กรมการค้าต่างประเทศได้ร่วมมือกับผู้แทนศุลกากรของสหรัฐฯ ประจำสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ดำเนินการตรวจสอบสถานที่ผลิตสินค้าในไทย ซึ่งผลิตสินค้าที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการทางการค้ากับประเทศอื่นๆ เช่น มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (เอดี/ซีวีดี) มาตรการปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น (เซฟการ์ด) เพราะสหรัฐฯ เกรงว่า จะมีแอบอ้างแหล่งกำเนิดสินค้าจากไทยส่งออกไปสหรัฐฯ เนื่องจากไทยไม่ถูกการใช้มาตรการภาษี โดยตรวจสอบพบ 2 สินค้า คือ ไม้แขวนเสื้อเหล็ก และ ตะปู ซึ่งเป็นสินค้าที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการเอดีกับสินค้าจีน แต่มีการนำมาสวมสิทธิ์เป็นสินค้าไทยและส่งออก จึงได้ระงับการออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (ซี/โอ) ให้กับโรงงานที่ตรวจสอบพบแล้ว