xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” มั่นใจส่งออกปีนี้โต 8% ปี 62 ยืนตัวเลข 8% ไว้เป็นเป้าทำงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“พาณิชย์” ถกเอกชนประเมินส่งออก ชี้ผลพวงสหรัฐฯ-จีนพักรบสงครามการค้าทำส่งออกปลายปีคลี่คลาย มั่นใจทั้งปีโต 8% แน่ ส่วนปี 62 ยันเป้า 8% พร้อมโชว์แผนเจาะตลาดเป็นรายประเทศและรายสินค้า ด้านเอกชนมองมีโอกาสโต 5-7% เหตุเอกชนมองเป็นรายสินค้า ส่วนพาณิชย์มองเป็นรายตลาด ย้ำจากนี้ไปต้องมาทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อน

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการหารือร่วมกับภาคเอกชนเพื่อประเมินสถานการณ์ส่งออกไทยไตรมาส 4 ปี 2561 ว่า ผลการหารือมองตรงกันว่าการส่งออกในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้จะส่งออกได้ดีขึ้น และช่วยให้การส่งออกทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 8% เพราะขณะนี้สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนคลี่คลายลงชั่วคราว โดยทั้ง 2 ประเทศได้มีข้อตกลงที่จะยุติการขึ้นภาษีสินค้าเป็นเวลา 90 วัน ส่งผลทางจิตวิทยาทำให้บรรยากาศการส่งออกช่วงปลายปีดีขึ้น

ส่วนการส่งออกในปี 2562 กรมฯ ยังยืนยันเป้าหมายการเติบโตที่ 8% โดยได้รวมกรณีเลวร้าย หากสงครามการค้ากลับมายืดเยื้ออีกครั้งเอาไว้แล้ว เนื่องจากมีแผนผลักดันการส่งออกเป็นรายตลาด เช่น จีน เอเชียใต้ ฮ่องกง ตะวันออกกลาง และแอฟริกา และจะมีกิจกรรมที่จะสนับสนุนการส่งออกไปยังตลาดเหล่านี้เพิ่มขึ้น ส่วนรายกลุ่มสินค้าก็มีสินค้าใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นและจะเร่งผลักดันให้มากขึ้น เช่น กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมสมุนไพร ผักและผลไม้แปรรูป รวมถึงจะใช้ช่องทางการค้าออนไลน์เข้ามาช่วยเสริมช่องทางออฟไลน์ผลักดันการส่งออกให้ขยายตัว

สำหรับปัจจัยเสี่ยงในปีหน้า ต้องติดตามสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน รวมถึงราคาน้ำมันดิบว่าจะเป็นไปในทิศทางใด โดยไตรมาส 1 ปี 2562 จะเห็นภาพได้ชัดกว่านี้ ส่วนกรณีที่เครือสหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิก) ไทยมีแผนที่จะเจรจาทวิภาคีเอาไว้แล้วเพื่อช่วยในการผลักดันการส่งออก ขณะที่การส่งออกไปตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดสำคัญมีหลายเมืองที่ไทยจะต้องบุกเจาะตลาดเพิ่มเติม ซึ่งเป็นไปตามแผนของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้เจาะจีนเป็นรายมณฑล

นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนมองการส่งออกปี 2562 จะเติบโตที่ระดับ 5-7% โดยการส่งออกกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม คาดว่าจะเติบโต 6-8% และกลุ่มสินค้าเกษตร เติบโตประมาณ 3-4% ซึ่งสินค้าที่น่าห่วงในปีหน้ามีเพียงน้ำตาลที่คาดว่าจะส่งออกติดลบ กลุ่มอัญมณีและทองคำที่ราคาตลาดโลกยังผันผวน ส่วนยางพาราปีนี้ส่งออกติดลบ 20% ปีหน้าคาดว่าน่าจะกลับมาบวกได้ 5%

“เอกชนมองส่งออกเติบโตไว้ที่ 5-7% แต่เป้าหมาย 8% ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นเป้าทำงาน ก็น่าชื่นชม และมีโอกาสเป็นไปได้ โดยจากนี้ไปต้องมาทำงานร่วมกันเพราะเอกชนประเมินเป็นรายสินค้า แต่กระทรวงพาณิชย์ประเมินเป็นรายตลาด จะต้องมาทำงานให้สอดคล้องกัน เช่น หากรายตลาดมีโอกาสขยายตัวเท่านี้จะมีสินค้าใดที่จะส่งออกไปเพื่อผลักดันให้เติบโตตามเป้า เป็นต้น รวมทั้งปัญหาอุปสรรคที่จะต้องมีการแก้ไขร่วมกันระหว่างรัฐกับเอกชน” นายสนั่นกล่าว

ทางด้านปัจจัยเสี่ยงในปี 2562 ที่ภาคเอกชนกังวล คือ อัตราแลกเปลี่ยนของไทยที่ยังเสียเปรียบประเทศคู่แข่ง โดยค่าเงินบาทที่จะส่งผลดีต่อการส่งออกควรอยู่ที่ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ยังคงผันผวน ส่วนผลกระทบเรื่องสงครามการค้ามองว่ายังมีผลดีต่อการส่งออกไทย เพราะขณะนี้นักลงทุนจีนเริ่มย้ายฐานการผลิตมายังไทยและประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม ดังนั้น ไทยต้องใช้โอกาสตรงจุดนี้ดึงดูดให้เข้ามาลงทุนในไทย รวมถึงการมองหาฐานตลาดส่งออกใหม่ๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น