xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์” ลงพื้นที่พบชาวนา ดีใจราคาข้าวพุ่ง เผย ธ.ก.ส.โอนค่าเก็บเกี่ยวแล้ว 2.8 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“สนธิรัตน์” ลงพื้นที่พบปะชาวนาอุบลราชธานี บอกรู้สึกดีใจที่ปีนี้ขายข้าวได้ราคาดี เผยข้าวหอมมะลิสูงเป็นประวัติการณ์ตันละ 1.55-1.67 หมื่นบาท บวกมาตรการที่รัฐช่วย ชาวนาจะมีรายได้ถึงตันละ 2.2 หมื่นบาท ส่วนข้าวขาว ข้าวเหนียว หอมปทุม ก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันหลังมีคำสั่งซื้อรองรับ ระบุล่าสุด ธ.ก.ส.โอนเงินค่าเก็บเกี่ยวเข้าบัญชีชาวนาแล้วกว่า 2 ล้านราย รวมกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการภายใต้มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว และพบปะกับเกษตรกรในอำเภอเขื่อนใน จังหวัดอุบลราชธานี วานนี้ (29 พ.ย.) ว่า รู้สึกดีใจกับชาวนาที่ปีนี้สามารถขายข้าวได้ราคาสูงขึ้น เพราะได้รับผลดีจากที่รัฐบาลเข้ามาบริหารจัดการข้าวค้างสต๊อกจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกจนหมด ทำให้ผลกระทบต่อราคาข้าวในตลาดไม่มีอีกต่อไป และยังมีคำสั่งซื้อข้าวไทยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีให้ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวเปลือกหอมมะลิปัจจุบันซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูกาล ราคาสูงถึงตันละ 15,500-17,600 บาท ถือเป็นราคาที่พี่น้องเกษตรกรพอใจ

“ผมดีใจที่ปีนี้พี่น้องชาวนาหน้าตาแจ่มใส ราคาข้าวดีเหลือเกิน แต่เสียดายข้าวน้อยไปหน่อย โดยกระทรวงพาณิชย์ที่ผมดูแลอยู่ก็ดีใจ เพราะตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารได้ออกมาตรการเรื่องข้าวอย่างทุ่มเทสุดชีวิต ทำมาหลายปี เพราะรู้ว่าพี่น้องลำบากเรื่องราคาข้าว ราคาไม่ดี แต่เมื่อพวกเราเข้ามาก็ก้มหน้าก้มตาแก้ปัญหา จนในที่สุดทำให้ราคาข้าวมีเสถียรภาพ และยืนยันที่จะมุ่งหน้าใช้กลไกตลาดนำการผลิตต่อไป โดยไม่บิดเบือนกลไกตลาดให้เสียหาย และจะรักษาราคาให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อไป และหวังที่จะให้ทุกๆ ปีเป็นปีทองของชาวนา”

สำหรับราคาข้าวเปลือกเจ้า 5% พบว่าแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากการที่ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ และปัจจุบันมีคำสั่งซื้อข้าวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับจีนและฟิลิปปินส์ และยังมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาอีก ทำให้ผลผลิตข้าวมีตลาดรองรับในช่วงต้นฤดู ส่งผลดีทำให้ราคาสูงขึ้น ขณะที่ข้าวเปลือกเหนียวราคามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกประสบปัญหาภัยแล้ง ส่วนข้าวเปลือกปทุมธานีราคาเพิ่มขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับข้าวเปลือกหอมมะลิ

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า รัฐบาลยังมีมาตรการดูแลราคาข้าวเปลือกในช่วงต้นฤดู โดยได้ผลักดันให้เกษตรกรเก็บข้าวไว้ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก แยกเป็นกรณีไม่มียุ้งฉาง แต่เป็นสมาชิกสถาบันเกษตรกรสามารถเอาข้าวไปฝากเก็บ จะได้รับค่าฝากเก็บตันละ 1,000 บาท ถ้ามียุ้งฉางได้ตันละ 1,500 บาท ซึ่งไม่จำกัดปริมาณข้าว และถ้าต้องการเงินไปใช้ ยกตัวอย่างข้าวหอมมะลิ ก็เอาข้าวไปวางค้ำประกันไว้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะได้เงินตันละ 11,800 บาท ต่อไปเมื่ออยากขาย ราคาข้าวสูงขึ้นเป็นตันละ 16,000-18,000 บาท เกษตรกรก็จะได้ส่วนต่างจากการนำข้าวไปขายอีกตันละ 4,000-6,000 บาท

นอกจากนี้ ยังได้รับเงินจากรัฐบาลทันทีเป็นค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพ โดยให้แก่เกษตรกรทุกรายที่ขึ้นทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตรไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 12 ไร่ หรือไม่เกิน 18,000 บาท ซึ่งหากรวมรายได้ที่เกษตรกรจะได้รับ ทั้งค่าฝากเก็บ ค่าเก็บเกี่ยว ค่าปรับปรุงคุณภาพ และส่วนต่างราคาที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เกษตรกรจะมีรายได้จากการขายข้าวเปลือกหอมมะลิสูงถึงตันละ 22,000 บาทหรือมากกว่า

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ธ.ก.ส.ได้โอนเงินค่าเก็บเกี่ยวเข้าบัญชีเกษตรกรในพื้นที่ที่ไม่ประกาศภัยพิบัติแล้วทุกราย จำนวน 2,054,173 ราย รวมทั้งสิ้น 28,943,604,375 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น