“อุตตม” ถก ส.อ.ท.โปรยยาหอมเตรียมมอบของขวัญให้ภาคอุตสาหกรรมนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง ทั้งการยกเลิกต่ออายุใบ รง.4 ทุก 5 ปี การหนุนให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ที่ยึดโยงการเกิดขึ้นของสตาร์ทอัพ และชุมชนเข้มแข็ง ทั้ง Bio Economy และ Circular Economy พ่วงด้วยแพกเกจหนุนเอสเอ็มอีชุดใหญ่ ด้าน ธพว.แย้มจ่อตั้งกองทุนใหม่ 1.8 พันล้านเสริมแกร่งเอสเอ็มอีเป็น 1 ในชุดของขวัญปีใหม่
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมมอบของขวัญปีใหม่ให้ภาคเอกชนทั้งรายใหญ่ วิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) รวมไปถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายโดยเฉพาะเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่จะต้องเชื่อมโยงกับการสร้างอาชีพ สร้างผู้ประกอบการใหม่ (สตาร์ทอัพ) ให้กับชุมชน โดยจะมีการเร่งกระบวนการจัดทำรายละเอียดให้แล้วเสร็จเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือนธันวาคมนี้
สำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) นั้นรายละเอียดยังขอไม่เปิดเผยแต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนที่คาดว่าจะเสร็จในเร็วๆ นี้แน่นอน โดยจะเป็นมาตรการส่งเสริม และมีการปรับกลุ่มเป้าหมายที่ติดกับดักทางการเงินให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น เป็นต้น ขณะที่โรงงานขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับใบ รง.4 เตรียมยกเลิกการต่ออายุใบ รง.4 ทุก 5 ปีที่เคยกำหนดไว้ และการปรับกระบวนการดังกล่าวจะนำไปสู่ระบบตรวจสอบตนเอง (Self-Declaration) ที่จะปฏิบัติได้จริง ส่วนการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายเศรษฐกิจชีวภาพ และเศรษฐกิจหมุนเวียนจะกำหนดการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนที่เน้นการพัฒนาพื้นที่โดยรอบเข้ามาด้วยไม่ใช่มองแค่เพียงการตั้งโรงงานซึ่งจะพยายามเสนอ ครม.ให้ทัน ธ.ค.นี้
ส่วนพัฒนาชุมชนให้มีอาชีพ มีรายได้เพิ่มขึ้น ได้มอบหมายให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ไปร่วมหารือกับผู้ประกอบการเอกชนที่จะดำเนินการในเรื่องนี้เสนอเข้ามาให้เป็นรูปธรรมเช่นกัน ดังนั้น ภาพรวมเหล่านี้จะเห็นชัดเจนขึ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งการหารือกับ ส.อ.ท.ที่เป็นระดับจังหวัด ร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัดถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่จะร่วมกันกำหนดเป้าหมายการพัฒนาอุตสาหกรรมให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) กล่าวว่า จะเสนอ ครม.ธ.ค.นี้เพื่อจัดตั้งกองทุนใหม่วงเงิน 1,800 ล้านบาทซึ่งเป็นวงเงินที่ยุบมาจากกองทุนฟื้นฟูวงเงิน 1,000 ล้านบาท กับกองทุนพลิกฟื้นวงเงิน 2,000 ล้านบาทในส่วนที่เหลือ ซึ่งจะมีการตั้งชื่อกองทุนใหม่และปรับเงื่อนไขการปล่อยกู้โดยอัตราดอกเบี้ย 0% และอาจปรับวงเงินที่จะให้ที่ขณะนี้กำลังพิจารณา เป็นต้น