“อุตตม” เตรียมจับมือกระทรวงวิทย์ฯ และดีอีตั้งศูนย์อินโนสเปซเพื่อพัฒนาเครื่องมือด้านนวัตกรรม หลังพัฒนาเอสเอ็มอี ดันคนรุ่นใหม่เป็นสตาร์ทอัพเพิ่ม คาดภายใน 2 เดือนได้ข้อสรุป หรือภายในปีนี้จะสามารถเปิดใช้เครื่องมือ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี พร้อมดึง บมจ.ตลาดหลักทรัพย์-ฮ่องกงช่วยหนุนแจ้งเกิดสตาร์ทอัพไทยโตเร็ว
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมนวัตกรรม หรืออินโนสเปซ สำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) และผู้ประกอบการใหม่ (สตาร์ทอัพ) และเป็นไซเบอร์พอร์ตไทยแลนด์ ซึ่งจะร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในการจัดตั้งในรูปแบบเบื้องต้นที่อาจเป็นสถาบันหรือมูลนิธิเพื่อการขับเคลื่อน คาดว่าภายใน 2 เดือนจากนี้จะมีความชัดเจนด้านรูปแบบหน่วยงานมากขึ้น และพื้นที่ที่คาดว่าจะดำเนินการคือ วังจันทร์วัลเลย์ ซึ่งอยู่ในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) จ.ระยอง และลำดับต่อไปอาจขยายไปยัง จ.เชียงใหม่
“เป็นเรื่องเร่งด่วนที่เราจะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมใน 2 เดือน โดยจะกำหนดองค์ประกอบภายในครอบคลุมทุกด้าน เช่น พื้นที่ เตรียมความพร้อมด้านผู้เชี่ยวชาญ เตรียมพร้อมในการจัดตั้งองค์กร และเงินทุน เป็นต้น” นายอุตตมกล่าว
นอกจากนี้จะเชื่อมโยงองค์ความรู้กับองค์การสภาการพัฒนาการค้าฮ่องกง หรือ HKTDC ที่ส่งเสริมสตาร์ทอัพของฮ่องกง เนื่องจากฮ่องกงเป็นพื้นที่ที่มีความสามารถในการสร้างสตาร์ทอัพ โดยประธาน HKTDC เตรียมกำหนดการหารือกับภาครัฐของไทยในเดือน พ.ย.นี้ ดังนั้น คาดว่าจะมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือเพื่อขอความร่วมมือ ขอคำแนะนำ เพื่อยึดโยงข้อมูลร่วมกับไซเบอร์พอร์ตฮ่องกง โดยถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะสรุปให้เป็นรูปธรรมเพื่อเปิดตัวและแนะนำอินโนสเปซกับไซเบอร์พอร์ตฮ่องกง นอกจากนี้ อาจจะดึงทุนจากเวนเจอร์แคปปิตอลในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาร่วมด้วย
ขณะเดียวกันยังมีแผนยกระดับโรงงานสถานประกอบการไทยให้สอดรับกับอุตสาหกรรม 4.0 หรือแฟกตอรี 4.0 ให้มียุทธศาสตร์ที่เดินหน้าไปได้อย่างชัดเจน เช่น โรงงานต้องมีเทคโนโลยี ภาครัฐจะช่วยยกระดับได้อย่างไร พัฒนาบุคลากรป้อนภาคอุตสาหกรรมให้สอดรับกับความต้องการ ช่วยสร้างอาชีพและสร้างรายได้ โดยจะยึดโยงกับเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือเซอร์คิวลาร์อีโคโนมี ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ 12