xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์” ประกาศลุยงานเต็มสูบ เร่งปั๊มเศรษฐกิจฐานราก ช่วงโค้งสุดท้ายตำแหน่งรมว.พาณิชย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“สนธิรัตน์” ประกาศลุยงานเต็มที่ ช่วงโค้งสุดท้ายตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ยกระดับราคาสินค้าเกษตร สร้างความเข้มแข็งร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ขับเคลื่อนธุรกิจบริการด้านท่องเที่ยว ก่อนดันตั้งกรมธุรกิจบริการดูแลทั้งระบบ พร้อมดันคนไทยปลูกไม้ยืนต้นในที่ดินตัวเอง หวังสร้างผืนป่า วางรากฐานส่งออกไม้ในอนาคต

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงทิศทางการทำงานในตำแหน่วรมว.พาณิชย์ หลังจากประกาศตัวเข้าทำงานการเมืองในตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่าได้ตั้งเป้าหมายในการขับเคลื่อนงานของกระทรวงพาณิชย์ในช่วงเวลาที่เหลืออีกไม่มาก โดยจะเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ประชาชน และธุรกิจในระดับท้องถิ่นให้เพิ่มมากขึ้น เพราะถือเป็นงานในความรับผิดชอบในฐานะรมว.พาณิชย์ ที่ต้องเดินหน้าผลักดันต่อให้สำเร็จ

ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะเร่งเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร โดยใช้มาตรการดูแลและยกระดับราคาสินค้าเกษตรให้มีราคาสูงขึ้น เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และปาล์มน้ำมัน เป็นต้น และยังจะผลักดันให้มีการนำสินค้าเกษตรเข้าไปจำหน่ายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด รวมถึงสินค้าชุมชน ซึ่งจะทำให้เกษตรกรและผู้ผลิตสินค้าชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ จะยกระดับให้เป็นโชห่วยไฮบริด โดยจะผลักดันให้มีการนำระบบอีคอมเมิร์ซมาใช้ในการซื้อขายสินค้า และพัฒนาให้มีความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้นให้สามารถแข่งขันกับร้านค้าสมัยใหม่ให้ได้

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ในด้านการขับเคลื่อนภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะทำการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวให้เข้าไปยังแหล่งเพาะปลูก แหล่งผลิตสินค้าเกษตร สินค้าชุมชน ขยายไปถึงที่พัก โรงแรม โฮมสเตย์ ร้านอาหาร ร้านของของฝากของที่ระลึก ซึ่งจะมีการเชื่อมโยงกันหมดทั้งระบบ ทำให้เศรษฐกิจฐานรากเกิดการหมุนเวียน และยังได้ตั้งเป้าผลักดันให้เกิดกรมธุรกิจบริการ เข้ามาดูแลภาคบริการทั้งระบบ โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสรุปและดำเนินการจัดตั้ง

นอกจากนี้ กระทรวงฯ จะเร่งผลักดันให้ประชาชนทำการปลูกไม้ยืนต้นในที่ดินของตัวเอง หลังจากที่ได้ออกกฎกระทรวงให้สามารถนำไม้ยืนต้นมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจได้ โดยจะทำการรณรงค์อย่างหนัก เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญ เพราะการปลูกไม้ยืนต้น ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างทุนครอบครัว ให้มีเงินทุนนำไปใช้จากการนำไม้ไปค้ำประกัน แต่ยังเป็นการปลูกป่าให้กับประเทศ และในอนาคต จะสามารถตัดไม้ไปใช้ประโยชน์และส่งออกได้ เนื่องจากขณะนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ปรับแก้กฎหมายให้สามารถตัดไม้ และเคลื่อนย้ายไม้หวงห้ามได้ ซึ่งเป็นมาตรการที่สอดรับกัน

ส่วนด้านต่างประเทศจะเดินหน้าผลักดันการส่งออกอย่างเต็มที่ มีแผนที่จะเดินทางไปขยายตลาดให้กับสินค้าไทยอย่างต่อเนื่อง และยังได้เตรียมการประชุมมอบนโยบายการทำงานให้กับทูตพาณิชย์ในวันที่ 15 ต.ค. 2561 ซึ่งจะมีการประเมินทิศทางการส่งออกที่เหลือของปีนี้ รวมถึงการจัดทำเป้าหมายการส่งออกของปี 2562 และการเตรียมมาตรการรับมือในเรื่องสงครามการค้า


กำลังโหลดความคิดเห็น