“สนธิรัตน์” ถกรัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมมาเลเซีย ร่วมดันการค้า ลงทุน ตกลงเปิดด่านขนส่งสินค้าตลอด 24 ชั่วโมงที่สะเดา-บูกิตกายูฮิตัม จับมือพัฒนาสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปและปาล์มน้ำมัน ด้านมาเลเซียหนุนไทยเป็นเจ้าภาพประชุมอาเซียนปี 62 เพิ่มความร่วมมืออุตสาหกรรมรถยนต์
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้หารือกับนายอิกนาเทียส ดาเรลล์ ไลคิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมของมาเลเซียคนใหม่ ที่ได้เดินทางมาเยือนไทยเป็นประเทศแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงการผลักดันมูลค่าการค้า การลงทุนระหว่างสองประเทศให้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเห็นตรงกันที่จะผลักดันให้มีการเปิดด่านสะเดา จ.สงขลา-บูกิตกายูฮิตัม รัฐเกดะห์ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่างกัน
ทั้งนี้ ยังได้หารือถึงการเพิ่มความร่วมมือด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปเพื่อผลักดันสู่ตลาดโลก แม้มีตลาดเป้าหมายเดียวกัน แต่เป็นการสร้างความหลากหลายให้แก่ผู้บริโภค และยังจะร่วมมือกันในด้านอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ที่มาเลเซียมีความเข้มแข็งด้วย
“มาเลเซียได้แจ้งว่าพร้อมจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 3 เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างกันต่อไป” นายสนธิรัตน์กล่าว
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนแนวคิดด้านความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียน โดยมาเลเซียพร้อมสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของไทยในปี 2562 และสนับสนุนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของอาเซียนเพื่อเป็นเกราะป้องกันจากความเสี่ยงภายนอกภูมิภาค โดยเฉพาะผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และมาเลเซียยังต้องการให้ทั้งสองประเทศร่วมมือกันในการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ในภูมิภาคอาเซียนให้มีความเติบโตและแข็งแกร่ง เพื่อตอกย้ำถึงการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของโลก
สำหรับมาเลเซีย เป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทยในโลก ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2556-2560) การค้าระหว่างไทยกับมาเลเซียมีมูลค่าเฉลี่ยประมาณปีละ 23,287.66 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 2560 การค้ารวมไทย-มาเลเซียมีมูลค่า 22,107.41 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.27% โดยไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้ามูลค่า 1,402.69 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปมาเลเซีย ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางพารา น้ำมันสำเร็จรูป และเคมีภัณฑ์ ในขณะที่สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ น้ำมันดิบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ และแผงวงจรไฟฟ้า