“สนธิรัตน์” ลุยปั้นไทยเป็นฮับอัญมณีโลก จีไอทีนำเครื่องประดับท้องถิ่นโชว์งานบางกอกเจมส์

“สนธิรัตน์” ย้ำรัฐบาลมีนโยบายผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก เตรียมลุยพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่อง พร้อมปั้นผู้ประกอบการหน้าใหม่ ทั้ง SMEs และผู้ประกอบการท้องถิ่น เผยได้นำเปิดตัวในงานบางกอกเจมส์ด้วย คาดจัดงานปีนี้มียอดสั่งซื้อทันทีไม่ต่ำกว่า 2.2 พันล้าน ด้านสถาบันอัญมณีฯ นำสินค้าจากผู้ประกอบการท้องถิ่น 8 จังหวัดโชว์ มั่นใจเปิดตัวโกอินเตอร์ได้แน่ ปีหน้าลุยพัฒนาต่อ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หรือบางกอก เจมส์ แอนด์ จิวเวลรี แฟร์ ครั้งที่ 62 ระหว่างวันที่ 7-11 ก.ย. 2561 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า รัฐบาลมีนโยบายผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก (ฮับอัญมณี) เพราะอุตสาหกรรมนี้ มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งด้านการท่องเที่ยว การจ้างงาน และยังเป็นอุตสาหกรรมส่งออกอันดับ 3 รองจากยานยนต์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้มีแผนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ผู้ประกอบการท้องถิ่น ผู้ผลิต และผู้ส่งออกรายใหม่ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพราะการเป็นฮับจะต้องมีความเข้มแข็งตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ

“กระทรวงฯ ให้ความสำคัญต่อ SMEs และผู้ประกอบการท้องถิ่น เพราะคนเหล่านี้จะเป็นรากฐานที่สำคัญของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในอนาคต ซึ่งในการจัดงานครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้นำสินค้ามาจัดแสดงเพื่อเปิดตัวออกสู่ตลาดโลก รวมถึงสินค้าจากดีไซเนอร์และนักออกแบบรุ่นใหม่ และภายในงานยังมีสินค้าเด่นอย่างเช่นเครื่องประดับที่ผสมงานหัตถศิลป์ เครื่องประดับไลฟ์สไตล์ เช่น แว่นตากันแดดทำจากทองคำ เครื่องประดับในโอกาสสำคัญ เครื่องประดับโชคลาง มาจัดแสดงด้วย โดยคาดว่าในการจัดงานจะมีมูลค่าการสั่งซื้อทันที 2,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มีมูลค่าการสั่งซื้อทันที 2,005 ล้านบาท ยังไม่รวมยอดคำสั่งซื้อต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งจะต้องรอการประเมินผลอีกครั้ง” นายสนธิรัตน์กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2561 กระทรวงฯ ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับมูลค่าประมาณ 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1-3% ส่วนยอดการส่งออกในช่วง 7 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ค.) มีมูลค่า 4,322 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.9%

นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือจีไอที กล่าวว่า สถาบันฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการในส่วนภูมิภาค โดยเริ่มมาตั้งแต่เดือน ส.ค. 2560 ใน 15 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีจังหวัดนำร่อง ได้แก่ เชียงใหม่ น่าน และสุโขทัย ต่อมาได้เพิ่มจังหวัดเป้าหมายอีก 5 จังหวัด ได้แก่ แพร่ สุรินทร์ เพชรบุรี ตราด และสตูล โดยประสบความสำเร็จสามารถผลักดันให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นมีการพัฒนาสินค้าให้ทันสมัย ถูกใจคนรุ่นใหม่ ถูกใจวัยรุ่น จนทำให้สินค้าจำหน่ายได้เพิ่มขึ้น และได้นำมาจัดแสดงในงานบางกอกเจมส์ครั้งนี้ด้วย มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อทั้งใน และต่างประเทศ

สำหรับแผนการพัฒนาผู้ประกอบการท้องถิ่นในปี 2562 สถาบันฯ จะขยายไปยังจังหวัดที่เหลือ และมองหาจังหวัดใหม่ๆ ที่เป็นแหล่งหรือฐานการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับ เพิ่มทำการส่งเสริมต่อไป และยังมีแผนที่จะเข้าไปพัฒนาจังหวัดจันทบุรีให้เป็นนครอัญมณี เพราะแม้การทำเหมืองพลอยจะลดลง แต่ยังมีการค้าพลอย มีการเจียระไนพลอยอยู่ ซึ่งถือเป็นจุดแข็ง จึงสามารถที่จะพัฒนาให้เป็นนครอัญมณีได้ และจากนั้นจะส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดคนไปเที่ยวต่อไป