นายวรวิทย์ เลิศบุษศราคาม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายโรงงาน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (TPIPP) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าสำหรับโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะและถ่านหิน 70 เมกะวัตต์ (TG7) จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แล้ว ซึ่งจะเริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ในช่วงต้นเดือน ส.ค.นี้ ทำให้คงเหลือเพียงโรงไฟฟ้าถ่านหิน 150 เมกะวัตต์ (TG8) ที่คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตจาก กกพ.ในช่วงไตรมาส 4 นี้ ทำให้มีโรงไฟฟ้าจ่ายไฟเชิงพาณิชย์แล้วครบ 440เมกะวัตต์
ส่งผลบริษัทมีรายได้ในปี 2562 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1-1.1 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปีนี้ที่คาดว่ามีรายได้รวม 8 พันล้านบาท โดยปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะมีกำไรประมาณ 4 พันล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.59 พันล้านบาท แต่ก็ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 5 พันล้านบาท เนื่องจากโรงไฟฟ้าใหม่มีการจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ล่าช้ากว่าแผน
นายวรวิทย์กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้ 2.5 หมื่นล้านบาทเพื่อรองรับการลงทุนใหม่ที่จะมีขึ้นในอนาคตทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะโครงการในต่างประเทศ อย่างในเวียดนาม, พม่า และฟิลิปปินส์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาโรงไฟฟ้าหลายประเภททั้งขยะ, ถ่านหิน, ก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น นับเป็นการลงทุนต่างประเทศครั้งแรกของบริษัท
ส่วนการลงทุนในประเทศนั้น บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเข้ายื่นประมูลเพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะของกรุงเทพมหานคร (กทม.) 2 โครงการ ในพื้นที่อ่อนนุช และหนองแขม กำลังผลิตไฟฟ้าแห่งละ 20 เมกะวัตต์ และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะของ จ.นครราชสีมา 1 โครงการ กำลังผลิตไฟฟ้า 10 เมกะวัตต์ คาดว่าทั้งสองหน่วยงานจะเปิดให้ยื่นประมูลในปีนี้
หากบริษัทได้รับการคัดเลือกทั้ง 3 โครงการ กำลังผลิตรวม 50 เมกะวัตต์ ก็จะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในช่วงปลายปี 2563 แต่ทั้งนี้ยังต้องรอให้ กกพ.ประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานขยะในรอบต่อไปก่อนด้วยเช่นกัน