นบข.รุกหนักจัดการโกงจำนำข้าวต่อ สั่งตามหาข้าวหายอีกเกือบ 1 ล้านตัน มูลค่า 2.25 แสนล้านบาท “พาณิชย์” รับลูกส่ง สตง.ตรวจทันที พร้อมสั่ง อคส.-อ.ต.ก.เดินหน้าเอาผิดโรงสี โกดัง เซอร์เวเยอร์ เผยล่าสุดเหลือข้าวค้างสต๊อกอีกแค่ 7 หมื่นตัน เตรียมเปิดระบายเร็วๆ นี้ แต่อาจมีเพิ่มเป็น 3 แสนตันหลังประมูลไปแล้วคู่สัญญาไม่มารับมอบเหตุเจอข้าวเสื่อม พร้อมดันจีนลงนามสัญญาซื้อขายข้าวล้านตันที่สองหาตลาดให้ข้าวไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อเร็วๆ นี้กระทรวงพาณิชย์ในฐานะคณะทำงานระบายข้าวสารสต๊อกรัฐบาล ได้รายงานให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) รับทราบถึงปริมาณข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่ยังคงติดค้างอยู่กับองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ที่ไม่สามารถนำออกมาระบายได้ เนื่องจากข้าวส่วนนี้ได้หายไปจากบัญชีการตรวจนับปริมาณรวม 9.4 แสนตัน ซึ่ง นบข.ได้สั่งการให้เร่งติดตามข้าวที่ขาดหายจากบัญชีกลับคืนมาเพื่อไม่ให้รัฐเกิดความเสียหายแล้ว
ทั้งนี้ ข้าวที่ขาดหายไปนั้นมาจากรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับตัวเลขมา 18.70 ล้านตัน แต่ผลการตรวจนับมีข้าวอยู่ในสต๊อกปริมาณ 17.76 ล้านตัน หรือขาดหายไป 9.4 แสนตัน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ และติดตามข้าวที่หายไปกลับคืนมาแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานให้ นบข.รับทราบแล้ว ล่าสุดได้ส่งเรื่องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบเพื่อตามหาปริมาณข้าวดังกล่าวแล้ว และยังได้กำชับให้ อคส. และ อ.ต.ก.ดำเนินคดีต่อเจ้าของโกดัง บริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) และโรงสีข้าว ที่ทำข้าวขาดหายไปจากบัญชีด้วย
โดยปริมาณข้าวที่หายไป 9.4 แสนตันนั้น หากคิดมูลค่าจากราคาที่รับจำนำเข้ามาตันละประมาณ 2.4 หมื่นบาท จะมีมูลค่าสูงถึง 2.256 แสนล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันข้าวที่เหลืออยู่ในสต๊อกรัฐบาลที่สามารถนำมาเปิดประมูลได้เหลืออยู่อีกประมาณ 7 หมื่นตัน เป็นข้าวกลุ่ม 2 และ 3 ซึ่งเป็นข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่คนบริโภค และเข้าอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่คนและสัตว์บริโภค และคาดว่าจะเปิดประมูลอีกครั้งในเร็วๆ นี้ และขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้าวในส่วนอื่นๆ ที่ยังคงเหลือ เช่น ข้าวที่ผู้ชนะการประมูลไปแล้วแต่ไม่มารับมอบ ซึ่งมีประมาณ 7 แสนตัน โดยในจำนวนนี้ประมาณ 3 แสนตันที่คาดว่าคู่สัญญาจะไม่รับมอบ เพราะมีปัญหาข้าวเสื่อม ข้าวไม่ตรงตามคุณภาพ โดย นบข.ได้สั่งการให้ อคส. และ อ.ต.ก.ไปเร่งรัดคู่สัญญาเพื่อให้รับมอบข้าวแล้ว แต่หากไม่รับมอบก็ต้องดำเนินการหาผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย และจะนำข้าวมาเปิดประมูลต่อไป
สำหรับการหาตลาดรองรับให้กับข้าวไทย นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้าการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน (JC) ในเดือน ส.ค. 2561 กรมฯ จะหารือกับหน่วยงานที่ดูแลด้านการก่อสร้างรถไฟและนำเข้าสินค้าเกษตรของรัฐบาลจีน (NDRC) ให้มีการลงนามสัญญาซื้อขายข้าวจากไทยในส่วนล้านตันที่สอง ที่ไทยและจีนได้มีการทำสัญญาบันทึกความเข้าใจ (MOU) กันไปแล้วก่อนหน้านี้
โดย MOU ซื้อข้าวไทย 2 ล้านตันเป็นความตกลงที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งจีนได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไปแล้ว 1 ล้านตัน และปัจจุบันบริษัท คอฟโก้ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่นำเข้าข้าวของรัฐบาลจีนได้มีการนำเข้าข้าวตามสัญญาไปแล้ว 5 แสนตัน อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อขายในส่วนแสนตันที่ 6 ซึ่งกรมฯ มองว่าเมื่อรถไฟความเร็วสูงมีความคืบหน้า จีนก็ควรจะลงนามสัญญาซื้อขายในส่วนล้านตันที่ 2 ซึ่งหากสำเร็จก็จะทำให้ไทยมีตลาดรองรับผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่เพิ่มขึ้น