xs
xsm
sm
md
lg

กฟผ.พร้อมรับมือพายุ “เซินติญ” เขื่อนไร้ปัญหา “กนอ.” เฝ้าระวังนิคมฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กฟผ.เผยอิทธิพลพายุ “เซินติญ” ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้นแต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ มั่นใจทุกเขื่อนมีความแข็งแรง มั่นคง รับปริมาณน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ได้อย่างเพียงพอ ขณะนี้ “กนอ.” เตรียมแผนรับมือน้ำท่วม 55 นิคมฯ ทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวัง 3 นิคมฯ เสริมคันดิน-ประตูกั้นน้ำ ร่วมกรมชลฯ ตั้งศูนย์รายงานแบบเรียลไทม์

นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “เซินติญ” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรง ส่งผลให้มีฝนตกหนาแน่นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย แต่ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าเขื่อน กฟผ.ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำในช่วงฤดูฝนปีนี้ได้อย่างเพียงพอ และมีความมั่นคงแข็งแรงเนื่องจากมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานสากล

สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อน กฟผ.แต่ละภูมิภาคโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปกติ (ข้อมูล ณ วันที่ 27 กรกฎาคม 2561) ภาคเหนือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ ภาคตะวันตก เขื่อนศรีนครินทร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขื่อนสิรินธร และภาคใต้ เขื่อนรัชชประภา เขื่อนบางลาง สำหรับเขื่อนที่มีปริมาณน้ำสูงกว่าเกณฑ์ควบคุม (Upper Rule Curve) ได้แก่ ภาคตะวันตก เขื่อนวชิราลงกรณ เนื่องจากมีฝนตกหนักในลุ่มน้ำด้านเหนืออย่างต่อเนื่อง มีปริมาณน้ำกักเก็บ 6,754 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 76 ของความจุ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาณน้ำกักเก็บ 797 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 33 ของความจุ เขื่อนจุฬาภรณ์มีปริมาณน้ำกักเก็บ 107 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 65 ของความจุ และเขื่อนน้ำพุง มีปริมาณน้ำกักเก็บ 59 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 35 ของความจุ

“กฟผ.ได้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในเขื่อนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเขื่อนที่มีปริมาณน้ำสูงกว่าเกณฑ์ควบคุม หากจะมีการระบายน้ำในแต่ละครั้งจะส่งหนังสือแจ้งให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้นำท้องถิ่น และประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้ทราบล่วงหน้า โดยประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดได้ทางเว็บไซต์ WATER.EGAT.CO.TH และแอปพลิเคชัน EGAT Water ซึ่งสามารถดาวน์โหลดค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำได้อย่าง Real Time ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งมีการถ่ายทอดสดจากกล้อง CCTV ของแต่ละเขื่อนอีกด้วย” ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ กฟผ. กล่าว

นายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา รักษาการผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้น กนอ.ได้กำชับให้นิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศทั้ง 55 แห่งเตรียมพร้อมเกาะติดสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและให้ยกระดับแผนปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินเพื่อป้องกันอุทกภัยของแต่ละนิคมฯ พร้อมทั้งให้เฝ้าระวังดำเนินการตามมาตรการภาวะฉุกเฉินอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งชาวไทย และต่างชาติ รวมถึงชุมชนรอบนิคมฯ

“นิคมฯ 3 แห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ นิคมฯ บางปะอิน นิคมฯ บ้านหว้า และนิคมฯ สหรัตนนคร ซึ่งถือเป็นพื้นที่ราบลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมมากที่สุด กนอ.ได้ให้นิคมฯ ทั้ง 3 แห่งทำการตรวจสอบและเสริมความแข็งแรงของเขื่อนดินกั้นน้ำรอบนิคมอุตสาหกรรมซึ่งมีความสูงเฉลี่ย 5.4-7.5 เมตร พร้อมกับให้ทั้ง 3 นิคมฯ จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำ โดยร่วมมือกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด” นายอัฐพลกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น