บีซีพีจีลั่นครึ่งหลังปี 2561 ทุ่ม 5,000-10,000 ล้านบาทซื้อกิจการหรือร่วมทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ หลังขายโรงไฟฟ้า 2 แห่งในญี่ปุ่นเข้ากองทุนฯ มั่นใจผลดำเนินงานปีนี้โกยกำไรเพิ่ม
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) (BCPG) เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลังบริษัทได้ตั้งงบประมาณราว 5,000-10,000 ล้านบาทเพื่อใช้ในการซื้อกิจการหรือร่วมทุนธุรกิจไฟฟ้าในต่างประเทศ ซึ่งจะมีความชัดเจนในครึ่งหลังปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทมองการขยายลงทุนทั้งในเวียดนาม ลาว และออสเตรเลีย ในกลุ่มพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์) และพลังงานลม ขณะที่การซื้อกิจการดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิเติบโตจากปีที่แล้ว นอกเหนือจากการเติบโตตามธุรกิจปกติอยู่แล้ว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้มั่นใจว่ากำไรสุทธิจะเติบโตขึ้นกว่าปีที่แล้วที่มีกำไร 2,016 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 3/2561 บริษัทจะรับรู้กำไรจากการขายโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Nikaho และ Nagi ขนาดกำลังผลิตรวม 27.6 เมกะวัตต์ (MW) ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่น มูลค่าราว 3,185 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสนี้
นอกจากนี้จะรับรู้รายได้จากการเริ่มผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการ (โซลาร์ราชการ) กับองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ที่บริษัทเป็นผู้ร่วมลงทุน จำนวน 2 โครงการ รวมกำลังการผลิต 9 เมกะวัตต์ที่ได้เริ่ม COD แล้วในเดือน ก.ค.นี้ รวมทั้งยังมีกำไรเพิ่มขึ้นจากการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน