ผู้จัดการรายวัน 360 - “ไมเนอร์” โหมหนัก “เบอร์เกอร์คิง” ทุ่มงบ 400 ล้านบาทเปิดอีก 16 สาขาครึ่งปีหลัง โฟกัสโมเดลไดรฟ์ทรู พร้อมเล็งรุกช่องทางออฟฟิศ โรงพยาบาล ดันยอดทั้งปีโตตามเป้า หลังจากครึ่งแรกปี 61 โตพุ่ง 30%
นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือไมเนอร์ ผู้บริหารร้านเบอร์เกอร์ คิง เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ช่วงครึ่งปีแรก2561 ที่ผ่านมามียอดขายรวมเติบโต 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการขยายสาขาต่อเนื่อง การจัดโปรโมชัน การขยายช่องทางบริการ
โดยเฉพาะช่องทางบริการจัดส่งถึงบ้านหรือดีลิเวอรี ที่ได้เริ่มขยายการบริการเพิ่มเป็น 3 ช่องทางหลัก คือ การโทร.สั่งผ่าน 1112, การสั่งผ่านสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อสั่งของโดยตรง และการร่วมมือกับพันธมิตรจำหน่ายสินค้าผ่านฟูดดีลิเวอรี เช่น ฟู้ดแพนด้า
ส่วนแผนธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 400 ล้านบาทเพื่อขยายสาขาอีกอย่างต่ำ 16 สาขาในทุกรูปแบบ แต่จะเน้นขยายสาขารูปแบบไดรฟ์ทรูที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง เน้นการเปิดไดรฟ์ทรูในปั๊มน้ำมันประมาณ 10 สาขา โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก
ปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาแบบไดรฟ์ทรู 25 สาขา ซึ่งเป็นรูปแบบที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญมากขึ้น เพราะช่องทางไดรฟ์ทรูสามารถทำยอดขายได้มากกว่าสาขาในศูนย์การค้าหรือห้างค้าปลีกต่างๆ เพราะสามารถเปิดบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในปั๊มน้ำมันที่ขณะนี้เปิดทั้งในปั๊ม ปตท., เอสโซ่, บางจาก, เชลล์ และคาลเท็กซ์ ซึ่งจะมีทั้งเบอร์เกอร์และอาหารเช้า เที่ยง ค่ำ ดึก ไว้คอยบริการตลอดด้วย นอกจากนั้นก็จะมีการเปิดในศูนย์การค้าตามแหล่งหัวเมืองท่องเที่ยว 5 สาขา เช่น ภูเก็ต, ศรีราชา, กระบี่ และอีก 1 สาขา เปิดในสนามบินหาดใหญ่
นายประพัฒน์กล่าวด้วยว่า สนามบินเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่บริษัทฯ สนใจและมีแผนการขยายต่อเนื่อง เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ขณะเดียวกันทำเลออฟฟิศหรือสำนักงานและโรงพยาบาลก็เป็นอีกทำเลที่น่าสนใจเช่นกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ เพราะอาคารสำนักงานส่วนใหญ่แล้วจะมีปริมาณผู้คนมากเฉพาะช่วงวันจันทร์ถึงศุกร์เท่านั้น ส่วนโรงพยาบาลก็ยังมีประเด็นของเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ
ทั้งนี้ จากแผนงานดังกล่าว บริษัทฯ คาดว่าจะช่วยผลักดันยอดขายรวมปีนี้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย และภายในส้นปีนี้จะมีสาขาบริการครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีทั้งหมด 86 สาขา แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 45 สาขา สนามบิน 14 สาขา และที่เหลืออยู่ในต่างจังหวัด