“ศิริ” จ่อปรับแผนพีดีพีใหม่ดึงสตาร์ทอัพคิดค้นนวัตกรรมผลิตไฟฟ้าป้อนระบบหวังพัฒนาผู้ประกอบการรายย่อยหน้าใหม่เข้าวงการธุรกิจไฟฟ้า ควักเงินกองทุนอนุรักษ์ฯ150-200ล้านบาทหนุนสถาบันวิทยสิริเมธีวิจัยพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียม
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในงานสัมมนานสพ.ฐานเศรษฐกิจหัวข้อ” อนาคตพลังงานไทย”ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ(พีดีพี)ฉบับใหม่ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ภายใน 2 เดือน ซึ่งการผลิตไฟฟ้าภายใต้แผนดังกล่าวจะหนุนและเปิดกว้างให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตไฟใหม่ๆ ที่จะพัฒนาให้เกิดผู้ผลิตไฟรายย่อยที่เป็นผู้ประกอบการใหม่หรือสตาร์ทอัพ(Startup)
“เราจะเน้นให้เกิดการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมการผลิตไฟฟ้าเพื่อให้เกิด Startup ให้คนหนุ่มสาวคิดรูปแบบโปรแกรมขึ้นมาให้เกิดการลงทุนขึ้น เช่น การผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคา(โซลาร์รูฟท็อป)ที่สามารถรวบรวมการผลิตแล้วทำระบบขายไฟฟ้ากันเองได้ซึ่งต่อไปเราจะส่งเสริมและทั้งหมดก็จะเชื่อมกับระบบกักเก็บพลังงานหรือแบตเตอรี่”นายศิริกล่าว
ทั้งนี้ล่าสุดกระทรวงพลังงานโดยกองทุนเพื่อการส่งเสริมและอนุรักษ์พลังงานได้ให้การสนับสนุนแบบให้เปล่า 150-200 ล้านบาทกับสถาบันวิทยสิริเมธี(VISTEC)ของบมจ.ปตท.ในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EECi) เพื่อจัดทำโครงการนำร่องต้นแบบการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและวิจัยแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์(มีความจุด3เท่าของลิเธียมไอออน)
“ คาดว่าจะสรุปผลการศึกษาได้ภายในสิ้นปีนี้และนำมาใช้ได้จริงต้นปีหน้าโดยการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจะนำมาทดลองใช้กับโครงการส่งเสริมรถตุ๊กๆ ระบบไฟฟ้า(E-TukTuk)และเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพมาทดลองใช้แบตศึกษาด้วย”นายศิริกล่าว
สำหรับพีดีพีใหม่จะมุ่งเน้นการจัดทำแผนการผลิตไฟฟ้าเป็นรายภูมิภาคซึ่งพบว่าจากแผนเดิมปี 2570 นั้นไฟฟ้าจะขาดเกือบทุกภาคยกเว้นภาคตะวันออกดังนั้นจึงต้องวางระบบให้รอบคอบและมองถึงแนวโน้มเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นใหม่และระบบใหม่ๆซึ่งเทรนด์ของโลกนั้นการผลิตไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปผสมกับแบตเตอรี่กำลังมาซึ่งภายในสิ้นปีกระทรวงฯจะสรุปกรอบและรูปแบบโครงการโซลาร์ภาคประชาชน รวมไปถึงการส่งเสริมรูปแบบการบริหารจัดการไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนใต้ภายใต้บริษัท RPS( Regional Power System ) 300 เมกะวัตต์เพื่อสร้างรายได้ให้กับวิสาหกิจชุมชน