ผู้จัดการรายวัน360 - “ดีเอชแอล” ยกไทยตลาดสำคัญโลจิจติกส์ อี-คอมเมิร์ซ ในเซาท์อีสต์เอเชีย ชื้ศักยภาพไทยคาดตลาดรวมยังโตต่อเนื่อง 22% ถึงปี 2565 ล่าสุด เปิดบริการ ดีเอชแอล พาร์เซล เมโทร เป็นประเทศที่สองในเซาท์อีสต์เอเชีย
นายชาร์ลส์ บรูเออร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดีเอชแอล อี-คอมเมิร์ซ กล่าวว่า ตลาด อี-คอมเมิร์ซในประเทศไทย จากยูโรมอนิเตอร์ ระบุว่า มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่า จากปีนี้ (2561) จนถึงปี 2565 ภาพรวมจะเติบโตเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 22% ต่อเนื่องกัน โดยปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 160,000 ล้านบาท การเติบโตดังกล่าวนี้เองเป็นสิ่งที่ทำให้ดีเอชแอลมองไทยเป็นตลาดที่สำคัญประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ เซาท์อีสต์เอเซีย โดยไทยเป็นประเทศแรกในภาคพื้นนี้ที่ดีเอชแอลเปิดตัวธุรกิจ ดีเอลชแอล อี-คอมเมิร์ซ เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว เป็นแห่งแรกเพื่อรองรับกับตลาดอี-คอมเมิร์ซ
ขณะเดียวกัน นายชาร์ลส์ กล่าวให้ความเห็นกรณีที่ประเทศในเซาท์อีสต์เอเชียรวมตัวกันเป็นเออีซี ด้วยว่า ยิ่งส่งผลดีให้ตลาด อี-คอมเมิร์ซ ในไทยเติบโตตามไปด้วย 9% มากกว่าในอดีต ขณะที่การค้าขายข้ามพรมแดนเติบโตมากถึง 27% ในเออีซีนี้ จากคนไทยมีการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศและมีการขายผ่านออนไลน์ส่งไปต่างประเทศเช่นเดียวกัน
“แนวโน้มจากนี้ อาจจะมีความเป็นไปได้ว่า ผู้ประกอบการ โลจิสติกส์เองก็จะขยายตัวมาทำทางด้าน อี-คอมเมิร์ซ เช่นเดียวกับคนทำ อี-คอมเมิร์ซ ก็จะขยายตัวไปทำโลจิสติกส์ได้เช่นกัน จะยิ่งทำให้ตลาดรวมมีการแข่งขันที่สูงขึ้นและเติบโตมากขึ้น”
โดยเฉพาะในตลาดกรุงเทพฯซึ่งเป็นตลาดใหญ่ โดยกว่า 50% ของจีดีพีมาจากกรุงเทพฯ และเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเป็นอันดับที่ 38 หรือประมาณ 5,200 คนต่อตารางกิโลเมตร จะยิ่งทำให้การซื้อขายสินค้าผ่าน อี-คอมเมิร์ซ เติบโตด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันไทยเป็นตลาดอี-คอมเมิร์ซ ที่เติบโตมากสุดในเออีซี แต่ก็ยังมีปริมาณสัดส่วนการซื้อขายผ่านออนไลน์เพียงแค่ 2.4% จากระบบค้าปลีกทั้งหมดในไทย เมื่อเทียบกับสัดส่วนในต่างประเทศทั่วไปที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 12.5% ของระบบค้าปลีก ซึ่งหมายความว่าไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกถึง 4 เท่า
นายเกียรติชัย พิตรปรีชา กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล อี-คอมเมิร์ซ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า ตลาดรวมการจัดส่งสินค้าในไทยมีประมาณ 3.5 แสนชิ้นจต่อวัน ซึ่งมีการเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน ทำให้มีผู้ประกอบการจำนวนมากขึ้นในตลาด ส่งผลต่อการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะการบริการส่งใน 2 ระบบ คือ เซมเดย์ หรือวันเดียวส่งถึง กับ การส่งแบบออนดีมานด์
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวบริการ ดีเอชแอล พาร์เซล เมโทร หรือบริการรับส่งพัสดุด่วนภายในวันเดียว โดยเปิดตัวที่ไทยเป็นประเทศที่สองของเซาท์อีสต์เอเชีย ก่อนหน้านี้ เปิดแล้วที่เมืองโฮจิมินห์ และฮานอยในเวียดนาม และต่อจากนี้จะเปิดที่กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ดีเอชแอลให้ความสำคัญกับตลาดในไทยอย่างมาก
เบื้องต้นนี้จะให้บริการดีเอชแอล พาร์เซล เมโทร ในกรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี และ ปทุมธานี เริ่มค่าบริการที่ 100 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและน้ำหนักสินค้า และเตรียมขยายไปยังหัวเ
มืองใหญ่ในอนาคตจากนี้
บริษัทฯประเมินว่า ภายใน 5 ปีจากนี้ ในตลาดรวมการบริการแบบเซมเดย์ จะมีสัดส่วนประมาณ 20% ของการบริการจัดส่งทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ให้บริการแบบเซมเดย์มีประมาณ 3 ราย
ทั้งนี้ ดีเอชแอล มีแผนที่จะขยายพันธมิตรในการเป็นจุดรับส่ง หรือเซอร์วิสพอยต์ ต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 เดือนที่แล้วได้เป็นพันธมิตรกับร้านหนังสือซีเอ็ด โดยเปิดจุดรับบริการแล้ว 200 แห่ง จากซีเอ็ดจำนวน 500 แห่ง คาดว่า สิ้นปีจะครบทุกสาขาของซีเอ็ด คาดว่า ดีเอชแอลมีจุดเซอร์วิสพอยต์ประมาณ 1,000 จุดได้ภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 2,500 จุดในปีหน้า