ผู้จัดการรายวัน 360 - “สตาร์บัคส์” ยังยกไทยเป็นตลาดยุทธศาสตร์เป้าหมายสำคัญในเอเชีย วางเป้าหมายอีก 5 ปีจะขยายครบ 600 สาขาในทุกโมเดล เร่งขยายทำเลใหม่ๆ
นางสาวเนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทแม่ของสตาร์บัคส์ยังคงมองประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญ และเป็นตลาดยุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่งแห่งหนึ่งของโลกและในเอเชีย โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายภายใน 5 ปีจากนี้จะเพิ่มจำนวนสาขาในไทยเป็นเท่าตัวหรือรวมเป็นประมาณ 600 สาขาให้ได้ จากปัจจุบันที่มีเปิดบริการประมาณ 335 สาขาแล้ว หลังจากที่ทำธุรกิจในไทยมานาน 20 ปี ส่วนปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 2 หลักเช่นเดียวกับปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ปีนี้ (2561) วางแผนที่จะเปิดอีกประมาณ 30-40 สาขา ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกนี้เปิดไปได้แล้วประมาณ 23 สาขา กระจายอยู่ในทุกทำเลที่มีศักยภาพ ทั้งในศูนย์การค้า คอมมูนิตีมอลล์ สแตนด์อะโลน จากปัจจุบันมีสาขาจำนวนประมาณ 335 สาขาในหลายรูปแบบ แบ่งเป็น ในศูนย์การค้า มากที่สุดประมาณ 60% ของทั้งหมด และอีก 40% เป็นโมเดลในทำเลอื่นๆ เช่น โมเดลรีเสิร์ฟ โมเดลไดรฟ์ทรู 24 สาขา โมเดลเปิด 24 ชั่วโมง 15 สาขา โมเดลที่เปิดในรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที 2 สาขาที่เพชรบุรี และสุขุมวิท โมเดลตามสำนักงาน โมเดลในโรงพยาบาล และสาขาที่ร่วมมือกับทางร้านอาฟเตอร์ยูในการเป็นพันธมิตรเพื่อวางจำหน่ายสินค้าร่วมกันอีก 8 สาขา เป็นต้น แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 70% และต่างจังหวัด รวม 36 จังหวัด อีก 30%
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่าทางสตาร์บัคส์มีแผนที่จะขยายสาขาในปั๊มน้ำมันเพื่อตอบรับกับเทรนด์ปัจจุบันนี้ที่ร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันมีการเติบโตอย่างมาก และมีกระแสข่าวว่ามีการเจรจากับปั๊มเอสโซ่เพื่อที่จะเป็นพันธมิตรกัน แต่อย่างไรก็ตามผู้บริหารปฏิเสธที่จะตอบในประเด็นดังกล่าวนี้
นางสาวเนตรนภากล่าวว่า ตลาดรวมร้านกาแฟพรีมียมที่เป็นเชนยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก แม้ว่าทุกวันนี้จะมีผู้ประกอบการจำนวนมากในตลาดก็ตาม แต่สตาร์บัคส์ถือว่าความท้าทายคือการแข่งขันกับตัวเองพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุด โดยตลาดรวมร้านกาแฟพรีเมียมเติบโตดีแม้ว่าจะยังคงเป็นสัดส่วนน้อยเพียง 10% จากตลาดรวมร้านกาแฟ ซึ่งอัตราการบริโภคกาแฟของคนไทยต่อปียังต่ำ มีโอกาสเพิ่มได้อีกมาก โดยลูกค้าของสตาร์บัคส์เฉลี่ยบริโภค 8 แก้วต่อคนต่อเดือน โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 220 บาทต่อคนต่อครั้ง
ปัจจุบันสตาร์บัคส์มีฐานสมาชิกที่ถือบัตรประมาณ 1.3 ล้านราย โตจากปีที่แล้ว 20% และปีนี้ก็คาดว่าจะ 20% เช่นกัน ขายกาแฟเฉลี่ย 3.5 ล้านแก้วต่อเดือน แบ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ 80% และอื่น 20%
นางสุมนพินทุ์ โชติกะพุกกณะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสาร กล่าวว่า ล่าสุดสตาร์บัคส์เปิดสาขาที่ 334 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมแต่รีโนเวตใหม่พร้อมกับเซ็นทรัลเวิลด์ที่รีโนเวตใหม่ทั้งศูนย์การค้า ร้านสตาร์บัคส์สาขาใหม่และใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีพื้นที่ 760 ตารางเมตร รองรับลูกค้าได้ถึง 230 ที่นั่ง พร้อมห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่อีก 2 ห้องเพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ภายในร้านจะมีทั้งสตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ บาร์ และเคาน์เตอร์ สตาร์บัคส์ ดราฟต์ นวัตกรรมเครื่องดื่มเย็นผสานไนโตรเจนเป็นครั้งแรกในเอเชีย
สตาร์บัคส์ ดราฟต์ (Starbucks® DRAFT) เปิดตัวเป็นครั้งแรกในเอเชียที่สาขานี้ ความพิเศษของสตาร์บัคส์ ดราฟต์ คือ การผสานเครื่องดื่มด้วยไนโตรเจน เสิร์ฟตรงจากแทปซึ่งมีให้เลือก 4 แบบ คือ แทปโคลด์ บรูว์ แทปไนโตร โคลด์ บรูว์ แทปชา และแทปนม ให้ลูกค้าได้เลือกสรรตามต้องการ ทุกเครื่องดื่มที่เสิร์ฟตรงจากแทปจะให้เครื่องดื่มเย็นที่มีฟองครีมเนียนละเอียดโดยไม่ต้องใส่น้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นกาแฟดำ ชา หรือเครื่องดื่มผสมนม เช่น ไนโตร แฟลต ไวต์, ไนโตร คาราเมล มัคคิอาโต, ไนโตร พีช ที, ไนโตร กรีนที ลาเต้ ยอดนิยมของลูกค้าชาวไทย และดาร์ก คาราเมล โคลด์ โฟม ไนโตร