xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” จับมือ “สยามดิสคัฟเวอรี่” จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าอินทรีย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมการค้าภายในจับมือศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าอินทรีย์ นำสินค้าดี สินค้าเด่นจากเกษตรกรและผู้ประกอบการส่วนกลางและภูมิภาค ทั้งอาหารและไม่ใช่อาหาร มาจำหน่ายตรงแก่คนกรุงและนักท่องเที่ยว วันที่ 1-4 มิ.ย.นี้

น.ส.สุทัศนีย์ ราชเรืองระบิน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดงาน “แสดงและจำหน่ายสินค้าอินทรีย์ระดับภูมิภาค” ระหว่างวันที่ 1-4 มิ.ย. 2561 ที่ชั้น G ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ โดยได้นำเกษตรกรและผู้ประกอบการจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคมาจัดแสดงและจำหน่ายสินค้ารวม 34 คูหา โดยมีสินค้าเด่น ได้แก่ กลุ่มอาหาร เช่น ข้าว ผัก ผลไม้ อาหารแปรรูป และกลุ่มที่ไม่ใช่อาหาร เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ เป็นต้น เพื่อจำหน่ายแก่ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ

“การจัดงานในครั้งนี้ เป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เพราะเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการสินค้าอินทรีย์ จะมีช่องทางและโอกาสในการนำสินค้าอินทรีย์และสินค้าที่ปลอดภัยต่อสุขภาพมาจำหน่าย ซึ่งเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าอินทรีย์ให้ผู้บริโภคได้รู้จัก และผลักดันให้เกษตรกรมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและเพิ่มมูลค่าสินค้ายิ่งขึ้น ส่งผลให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนผู้บริโภคจะได้บริโภคสินค้าอินทรีย์ที่มีคุณภาพ ส่งผลให้มีสุขภาพที่ดี” น.ส.สุทัศนีย์กล่าว

น.ส.สุทัศนีย์กล่าวว่า ในการส่งเสริมสินค้าเกษตรอินทรีย์ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก โดยมีนโยบายในการส่งเสริมให้เกษตรกรพึ่งพาตนเองได้ ด้วยการนำศาสตร์พระราชาในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ การเพาะปลูกพืชผัก ผลไม้ และทำปศุสัตว์อินทรีย์จึงเป็นคำตอบ เพราะการทำเกษตรอินทรีย์ลงทุนแค่แรง และใจ ไม่มีต้นทุนในเรื่องของยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืช และยังสอดคล้องกับทิศทางของโลกที่ให้ความสำคัญต่อการปกป้องสิ่งแวดล้อม

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ก็มีการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาตลาดสินค้าอินทรีย์ปี 2560-2564 โดยมีเป้าหมายในการผลักดันให้ไทยเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคด้านการผลิต การบริโภค การค้าสินค้า และการบริการเกษตรอินทรีย์ที่มีความยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และยังมีแผนในการผลักดันให้มีการขยายพื้นที่เพาะปลูก จาก 2 แสนไร่เป็น 6 แสนไร่ในปี 2564 รวมทั้งมีแผนหาตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศให้กับสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ผลิตได้ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น