“สนธิรัตน์” ถกผู้ผลิตรายใหญ่ 13 ราย ติดตามผลกระทบดีเซล - ค่าขนส่งขึ้น ทุกรายยืนยันยังไม่มีแผนปรับขึ้นราคาสินค้าในช่วงนี้ พร้อมโต้ข่าวโซเชียล แพงทั้งแผ่นดิน ไม่เป็นความจริง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค (ซัปพลายเออร์) จำนวน 13 ราย เพื่อติดตามผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล และค่าขนส่งสินค้า 5% วันที่ 24 พ.ค. ว่า ผู้ผลิตได้ยืนยันว่ายังไม่มีแผนการปรับขึ้นราคาสินค้าในช่วงนี้ เพราะราคาน้ำมันดีเซล และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น ยังไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อต้นทุนสินค้าจนเป็นสาเหตุทำให้ต้องปรับขึ้นราคาในช่วงนี้
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อโซเชียลว่าราคาสินค้าแพงทั้งแผ่นดิน ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะสินค้ายังมีราคาปกติ ตอนนี้ยังไม่มีผู้ผลิตรายใดขอปรับราคาเข้ามา แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้น หากสินค้ารายการใด มีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นจริง จนผู้ผลิตแบกรับภาระไม่ไหว ก็ให้ทำเรื่องเข้ามา จะพิจารณาให้ตามความเหมาะสม
สำหรับการปรับขึ้นราคาข้าวสารบรรจุถุง ได้รับคำชี้แจงจากผู้ผลิต เช่น ข้าวหงษ์ทอง และ มาบุญครอง ว่า มีการปรับขึ้นราคาเฉพาะข้าวเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพดีมาก เช่น ข้าวหอมมะลิ 100% ที่ราคาอาจขึ้นไปเกินกว่าถุงละ 300 บาท (ถุง 5 กิโลกรัม) แต่ข้าวหอมมะลิอื่น ราคายัง 200 กว่าบาท รวมถึงข้าวขาว ที่ยังไม่ได้ปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผู้ผลิต 13 ราย ที่ได้เข้าร่วมหารือในครั้งนี้ ได้แก่ 1. บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด 4. บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 5. บริษัท มรกต อินดัสตรี้ส์ จำกัด (มหาชน) 6. บริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด 7. บริษัท กรีนสปอต จำกัด 8. บริษัท อำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง จำกัด 9. บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด 10. บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) 11. บริษัท เจ๊ไน้ 88 จำกัด 12. บริษัท ดูเม็ก จำกัด และ 13. องค์การคลังสินค้า (อคส.)