xs
xsm
sm
md
lg

คนไทยซื้อ “ลองฌอมป์” ติดท็อปส์ 10 โลก พีพีฯ เอาใจสาวกเปิดชอป “ออนไลน์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุวดี พึ่งบุญพระ (ขวา) ประธานกรรมการ และนายโอฬาร ปุ้ยพันธวงศ์ (ซ้าย)รองประธานกรรมการ พีพี กรุ๊ป
ผู้จัดการรายวัน 360 พีพี กรุ๊ป รุกตลาดออนไลน์ รับเทรนด์และไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ เปิดเว็บไซต์นำร่องแบรนด์ ลองฌอมป์ จากฝรั่งเศสก่อน เหตุคนไทยรู้จักดี ราคาไม่สูงเกินไป เป็นตลาดแมส และคนไทยซื้อลองฌอมป์มากสุดติดท็อปเท็นโลกด้วย



นางสุวดี พึ่งบุญพระ ประธานกรรมการ และนายโอฬาร ปุ้ยพันธวงศ์ รองประธานกรรมการ พีพี กรุ๊ป ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าอินเตอร์แบรนด์แฟชั่น ร่วมกันเปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ขยายช่องทางจำหน่ายสู่ตลาดออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทชื่อว่า www.onlinestore.ppgroupthailand.com ซึ่งเริ่มเป็นทางการเดือนมิถุนายน 2561 นี้ ด้วยการนำแบรนด์ลองฌอมป์ (Longchamp) มาจำหน่ายในช่องทางดังกล่าวเป็นแบรนด์แรกของกลุ่มที่มีทั้งหมด 10 แบรนด์ และคาดว่าในปีหน้าจะเริ่มนำแบรนด์เอ็มซีเอ็ม (MCM) มาจำหน่ายออนไลน์เป็นแบรนด์ที่สอง ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้ทดลองขายผ่านทางแอปพลิเคชัน Line@ มาแล้ว ก่อนที่จะพัฒนาสู่อี-คอมเมิร์ซอย่างเต็มรูปแบบ

“ไทยเป็น 1 ใน 2 ประเทศที่เป็นดิสทริบิวเตอร์ของลองฌอมป์ ที่บริษัทแม่ที่ฝรั่งเศสอนุมัติให้มีการขายผ่านทางออนไลน์ ต่อจากประเทศออสเตรเลียที่เริ่มเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ส่วนประเทศอื่นที่ไม่มีดิสทริบิวเตอร์ทางบริษัทแม่ดำเนินการเอง เนื่องจากบริษัทแม่ที่ฝรั่งเศสมองเห็นศักยภาพของตลาดไทย และไทยยังเป็นตลาดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในเอเชียอีกด้วย และคนไทยก็ซื้อสินค้าลองชอมป์มากที่สุดติดอันดับท็อปเท็นในประเทศฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน”

ผู้บริโภคคนไทยรู้จักและคุ้นเคยแบรนด์ลองฌอมป์นี้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ไม่ต้องทำการตลาดหรือสร้างแบรนด์หรืออธิบายสินค้ามากนัก อีกทั้งเป็นสินค้าแมสจากในกลุ่มที่เรามีทั้งหมด และระดับราคเฉลี่ย 4,000 กว่าบาทขึ้นไปไม่ได้สูงมากนัก ทั้งนี้ สินค้าลองฌอมป์ในออนไลน์จะมีราคาเดียวกันกับที่สโตร์ จึงเหมาะสมที่จะนำมาเป็นแบรนด์แรกในการรุกตลาดออนไลน์ ซึ่งลองฌอมป์อยู่ในไทยมานานกว่า 11 ปี แต่บริษัทฯ เป็นผู้จัดจำหน่ายในไทยเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา โดยคาดหวังว่าลองฌอมป์จะมียอดขายเติบโตในช่องทางออไลน์มากถึง 20-30% จากเดิมเติบโต 15% และคาดหวังมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 5% จากออนไลน์ แบ่งเป็นลูกค้าต่างจังหวัด 60% และกรุงเทพฯ กับปริมณฑล 40% และเป็นลูกค้าคนไทย 80% และต่างชาติ 20%

“ลองฌอมป์ที่ขายในไทยสูงกว่าในฮ่องกงประมาณ 10-15% ซึ่งห่างกันไม่มาก ซึ่งเราต้องเสียภาษีนำเข้าเฉลี่ย 20-30% ส่วนสินค้าที่ขายในออนไลน์นั้น เรามั่นใจว่าราคาของเราจะสามารถสู้กับพวกสินค้าเกรย์มาร์เกตได้แน่นอน”

นายโอฬารกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตลาดอี-คอมเมิร์ซในไทยมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากอีคอมเมิร์ซ ไอคิว ระบุว่า ในปี 2559 มูลค่าการซื้อสินค้าผ่านทางอี-คอมเมิร์ซของธุรกิจค้าปลีกในไทยมีประมาณ 2,450 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยธุรกิจแฟชั่นมีมูลค่าประมาณ 390 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมากกว่า 13,650 ล้านบาท และเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 49% ส่วนในปี 2560 มีมูลค่าเพิ่มเป็น 2,945 ล้านเหรียญสหรัฐ


กำลังโหลดความคิดเห็น