กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดอัตราค่าธรรมเนียมจดทะเบียนนิติบุคคลใหม่แบบคงที่ ตั้งบริษัทใหม่เหลือ 5,500 บาท ห้างหุ้นส่วนจำกัดเหลือ 1,000 บาท จดทางออนไลน์ลดอีก 30% เหลือ 3,850 บาทและ 700 บาท เผยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ลด 50% มั่นใจช่วยลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น และดันอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจของประเทศดีขึ้น
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การขอสำเนาเอกสารพร้อมคำรับรอง และค่าธรรมเนียมอื่นที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด พ.ศ.2561 เพื่อกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนธุรกิจใหม่เป็นแบบอัตราคงที่ (flat rate) และลดอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) ลงอีก 30% ซึ่งกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.2561 ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้อัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนนิติบุคคลมีอัตราเดียวและถูกลง
ทั้งนี้ กฎกระทรวงฯ กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดใหม่ เหลือเพียง 5,500 บาท จากเดิมที่จะมีอัตราระหว่าง 5,000-275,000 บาท ห้างหุ้นส่วนจำกัดมีอัตราค่าธรรมเนียมเพียง 1,000 บาท จากเดิมจะมีอัตราค่าธรรมเนียมระหว่าง 1,000-5,000 บาท หรือการเปลี่ยนแปลง การเพิ่มทุนของห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดมีอัตราค่าธรรมเนียมเพียง 500 บาทต่อ 1 ครั้ง จากเดิมที่จะมีอัตราค่าธรรมเนียมตามรายการจดทะเบียนที่หลากหลายระหว่าง 300-250,000 บาท
โดยหากผู้ประกอบการจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านทางระบบออนไลน์ หรือ e-Registration อัตราค่าธรรมเนียมก็จะถูกลงอีก 30% คือ จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดมีอัตราค่าธรรมเนียม 3,850 บาท ห้างหุ้นส่วนจำกัดเพียง 700 บาท การเปลี่ยนแปลง การเพิ่มทุนของห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดมีอัตราค่าธรรมเนียม 350 บาทต่อ 1 ครั้ง
นางกุลณีกล่าวว่า การกำหนดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนทางออนไลน์ที่มีอัตราถูกลงขนาดนี้ เนื่องจากกรมฯ ต้องการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการดำเนินการจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านทางระบบ e-Registration มากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้ประกอบการเสียอัตราค่าธรรมเนียมที่ถูกลงแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทำให้ขีดความสามารถทางการแข่งขันของภาคธุรกิจดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งสามารถดำเนินการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลง หรือการเพิ่มทุนได้ง่าย ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่มีเวลาและสถานที่มาเป็นอุปสรรค
นอกจากนี้ ยังได้ให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ประกอบธุรกิจในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล และสงขลา (เฉพาะอำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) ที่จดทะเบียนในพื้นที่ โดยจะลดอัตราค่าธรรมเนียมจากอัตราใหม่ (Flat Rate) ลงอีก 50% ทำให้การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดจะมีอัตราค่าธรรมเนียมเพียง 2,750 บาท และห้างหุ้นส่วนจำกัดมีอัตราค่าธรรมเนียมเพียง 500 บาทเท่านั้น
สำหรับการลดอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าว แม้จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ลงกว่า 300 ล้านบาทต่อปี แต่ในภาพรวมประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์อย่างมากมาย เนื่องจากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการเริ่มต้นประกอบธุรกิจ เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการ อีกทั้งจะช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการหันมาทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น และยังจะส่งผลต่ออันดับของไทยในการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ หรือ Doing Business ของธนาคารโลก 2019 ที่คาดว่าจะมีอันดับที่ดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น