ปูนซิเมนต์ไทยแจงกำไรไตรมาส 1/2561 วูบ 29% เจอพิษค่าเงินบาทแข็งค่าและต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น มั่นใจโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์มูลค่า 5.4 พันล้านเหรียญสหรัฐที่เวียดนามกลางปีนี้ชัดเจน และก่อสร้างได้ในช่วงไตรมาส 3-4 นี้
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้จากการขายในปีนี้ไว้ที่ 5-6% จากปีก่อนที่มีรายได้ 4.51 แสนล้านบาท แม้ว่าไตรมาสแรก 1/2561 บริษัทมีรายได้จากการขาย 118,250 ล้านบาท โตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนแค่ 2% เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและบริษัทส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ 40% ทำให้ได้รับผลกระทบโดยตรง ขณะที่ผลิตภัณฑ์เคมิคอลแม้ว่าจะขายในประเทศบางส่วนแต่ราคาก็อิงเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐทำให้ไม่มั่นใจว่ารายได้จากการขายในปีนี้จะได้ตามเป้าหรือไม่
ผลดำเนินงานงวด 1/2561 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 118,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีกำไรสุทธิ 12,406 ล้านบาทลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 29% เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ลดลงของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมของธุรกิจเคมิคอลซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยเงินบาทแข็งค่าและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายในภูมิภาคอาเซียน 27,014 ล้านบาท คิดเป็น 23% จากยอดขายรวม และมีรายได้จากการขายในภูมิภาคอื่นๆ 20,075 ล้านบาท คิดเป็น 17% จากยอดขายรวม โดยมีสินทรัพย์ในอาเซียนเกือบ 30% ของสินทรัพย์รวม 584,251 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทในปีนี้จะแข็งค่าหรืออ่อนค่าสุดจะคาดได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือ การปรับปรุงความสามารถการแข่งขัน และนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาช่วยเพิ่มมูลค่า ส่งผลให้สามารถปรับขึ้นราคาสินค้าได้มาช่วยชดเชยผลกระทบค่าเงินบาท รวมทั้งการขยายไปต่างประเทศเพื่อขยายตลาด มูลค่าสินค้าให้ดีขึ้นและปริมาณให้สูงขึ้น
ทั้งนี้ ความต้องการใช้ปูนในประเทศในช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ พบว่าความต้องการใช้ปูนในการก่อสร้างภาครัฐดีขึ้น ส่วนใหญ่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ตัวเลขความต้องการใช้ปูนโต 0% นับเป็นสัญญาณที่ดี หลังจากตัวเลขความต้องการใช้ปูนโตติดลบมาหลายปี
ส่วนความคืบหน้าโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ มูลค่า 5.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในประเทศเวียดนามนั้น โครงการนี้มีความล่าช้ากว่าที่คิด โดยเฉพาะระเบียบข้อกฎหมายของเวียดนาม ยืนยันว่ากลางปีนี้จะมีความชัดเจนสรุปแผนการลงทุนและแหล่งเงินกู้ โดยจะเริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 3-4 นี้