xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดไฟส่องสว่างแอลอีดีพุ่ง 38% คาดอีก 3 ปี สมาร์ทไลท์ติ้ง ไอโอทีและแอปพลิเคชันพลิกโฉมโซลูชันด้านไฟฟ้าแสงสว่าง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ตลาดไฟส่องสว่างของไทยในปี 2560 มีมูลค่า 3.73 พันล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 38 เปอร์เซ็นต์ หรือกว่า 5 พันล้านบาท ภายในปี 2563 โดยมีไฟส่องสว่างประเภทแอลอีดีเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักต่อการเติบโตของตลาด ล่าสุด ประกาศความพร้อมโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ร่วมกับ เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต ออกาไนเซอร์ ผู้จัดงานแสดงสินค้าด้านไฟฟ้าแสงสว่างและอาคารระดับโลก เตรียมจัดงาน “ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2018” ให้เป็นเวทีกลางเพื่อสนับสนุนองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้านการประหยัดพลังงานไฟฟ้าและมุ่งเน้นให้เป็นเวทีในการรวบรวมองค์ความรู้จากผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านไฟฟ้าแสงสว่างและอาคารจากนานาประเทศเพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมไฟฟ้าแสงสว่างที่เน้นการประหยัดพลังงานของประเทศ

นางสาวพาขวัญ เจียมจิโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดิ เอ็กซิบิส จำกัด ผู้จัดงาน ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2018 และตัวแทนของ เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต ในประเทศไทย เปิดเผยว่า “ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดผลิตภัณฑ์ประเภทหลอดไฟทั่วไป ที่ไม่ใช่แอลอีดีเริ่มหดตัวลง ในขณะที่ตลาดไฟแอลอีดีค่อยๆ เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องด้วยราคาของผลิตภัณฑ์ที่ค่อยๆ ปรับลดลง ประกอบกับผู้ใช้ไฟมีความเข้าใจในประสิทธิภาพของไฟแอลอีดีในด้านการประหยัดพลังงาน อายุการใช้ที่ยาวนานกว่า และมั่นใจในความคุ้มค่าการลงทุน รวมทั้งนโยบายของภาครัฐในการรณรงค์ให้มีการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแอลอีดีแทนหลอดฟลูออเรสเซนต์ก็เป็นปัจจัยสำคัญให้ตลาดแอลอีดีเติบโต อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดแอลอีดีจะกำลังเติบโตขึ้น แต่มูลค่าตลาดแอลอีดีของไทยโดยรวมยังอยู่ที่ประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหมายความว่า ยังมีพื้นที่ให้กับผู้ประกอบการในการทำตลาดส่วนนี้อีกถึง 80%”

“สำหรับแนวโน้มของผลิตภัณฑ์ด้านไฟฟ้าแสงสว่างในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่สะดวกสบายมากขึ้นในกลุ่มสมาร์ทไลท์ติ้ง และ สมาร์ทโฮม รวมทั้งการใช้แอปพลิชันต่างๆ เข้ามาใช้กับระบบไฟฟ้าแสงสว่างจะมีแนวโน้มการเติบโตที่เห็นได้ชัดเจน นอกจากนั้น เทคโนโลยี IOT ก็เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ด้านไฟฟ้าแสงสว่างที่ปัจจุบันไม่ใช่เป็นเพียงแค่หลอดไฟแต่ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ซึ่งนับเป็นเทรนด์ที่มาแรงโดยเฉพาะอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับบ้านอัจฉริยะ หรือ สมาร์ทโฮม ที่ต้องควบคุมการทำงานได้ด้วยสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ในขณะเดียวกัน อาคารบ้านเรือน โรงงาน และเมืองก็ต้องการสมาร์ทไลท์ติ้งเพื่อการประหยัดพลังงานเป็นสำคัญ” นางสาวพาขวัญ กล่าวเสริม

ทางด้าน นายสเตฟาน บัวร์มา สมาชิกกรรมการบริหารของ เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต กรุ๊ป จากประเทศเยอรมนี เพิ่มเติมว่า “ในภูมิภาคอาเซียนมีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ด้วยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศในภูมิภาค (GDP) ที่รวมกันแล้วกว่า 2.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอันดับ 6 ของโลก และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 เมซเซ่ แฟรงค์เฟิร์ตเล็งเห็นศักยภาพของภูมิภาคนี้ และประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียน พร้อมเชื่อมั่นและมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของงานไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ ที่พร้อมแล้วในการก้าวสู่ระดับสากลในฐานะงานแสดงสินค้าในตระกูล Light+Building ของ เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งงานไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ นับเป็นงานแสดงสินค้าในตระกูล Light+Building ลำดับที่ 15 ซึ่ง เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต จะช่วยทำการตลาดและประชาสัมพันธ์งานไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ ผ่านงานแสดงสินค้าทั้ง 14 งาน ที่กระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งเชื่อว่า จะทำให้งานไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ เป็นที่รู้จักในระดับโลก”

ทั้งนี้ งานไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2018 และ ไทยแลนด์ บิลดิ้ง แฟร์ 2018 จะจัดขึ้นพร้อมงานซีเคียวเทค ไทยแลนด์ 2018 เป็นเวทีในการแสดงนวัตกรรมและเจรจาธุรกิจด้านไฟฟ้าแสงสว่าง เทคโนโลยีอาคาร และเทคโนโลยีด้านระบบรักษาความปลอดภัย ไว้ในที่เดียว เพื่อมอบโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้แสดงงานได้พบปะกับผู้เข้าชมงานในงานเดียวแบบครบวงจร ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.thailandlightingfair.com หรือติดต่อ บริษัท ดิ เอ็กซ์ซิบิส จำกัด โทรศัพท์ : 02 664 6499 ต่อ 200 และ 212 โทรสาร : 02-664-6477 อีเมล์ info@thailandlightingfair.com


กำลังโหลดความคิดเห็น