xs
xsm
sm
md
lg

อัปเกรดเทคโนโลยีตั๋วร่วม “แมงมุม 4.0” ทันสมัย ลงทุนลดลง 50% เลื่อนเปิดใช้ ธ.ค. 62

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


คมนาคมสั่ง รฟม.เดินหน้าอัปเกรดระบบตั๋วร่วมจากแมงมุม 2.0 เป็น 4.0 โดยใช้ระบบเปิดรองรับบัตร EMV ( Master Card และ Visa Card) ทั่วโลก เผยลดค่าลงทุน บำรุงรักษาตลอด 20 ปีลง 50% หรือจาก 4 พันล้านเหลือ 2 พันล้าน ตั้งเป้าเปิดใช้ ธ.ค. 62 ส่วนระยะแรก ต.ค. 61 ระบบจะรองรับการใช้บัตรแมงมุม 2 แสนใบก่อน บนรถเมล์, รถไฟฟ้า MRT, สีม่วง และแอร์พอร์ตลิงก์ ร่วมกับบัตรคนจน

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม โดยมีนายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พัฒนาเทคโนโลยีระบบใหม่ระบบสากล คือ บัตร EMV Contactless Smart Card (Open Loop) มาใช้กับระบบตั๋วร่วม (แมงมุม) ซึ่งจะเป็นการยกระดับเทคโนโลยีระบบตั๋วร่วม หรือแมงมุม 2.0 เดิม เป็นแมงมุม 4.0 ที่รองรับบัตรเครดิต/เดบิต (Master Card และ Visa Card) รวมไปถึงบัตรพีเพดหรือเติมเงิน นอกจากนี้ยังสามารถออกบัตรตามประเภทการใช้งาน เช่น บัตรนักศึกษา ผู้สูงอายุ ทหารผ่านศึกษา เป็นต้น

ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2560 ให้ รฟม.ดำเนินการระบบตั๋วร่วมอยู่แล้ว หลังจากนี้ รฟม.จะต้องไปดำเนินการตามขั้นตอนและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยจะรวบรวมรายละเอียดในการใช้ระบบ EMV และนำเสนอ ครม.ขออนุมัติ พร้อมกรอบวงเงินดำเนินโครงการใหม่ระยะ 20 ปี ซึ่งจะปรับลง 4,108 ล้านบาท เหลือ 2,002 ล้านบาท

ทั้งนี้ ได้กรอบเวลาในการให้บริการ จะแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยระยะแรกในวันที่ 1 ต.ค. 2561 จะนำบัตรแมงมุมที่มีการผลิตไว้แล้ว 2 แสนใบ ใช้ร่วมกับบัตรสวัสดิการ 1.3 ล้านใบ, MRT Plus ที่มีอยู่มาใช้ในระบบรถเมล์ 2,600 คัน รถไฟฟ้าสีน้ำเงิน MRT, รถไฟฟ้าสีม่วง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ จะนำมาใช้รูปแบบคล้ายกับบัตรสวัสดิการ ซึ่ง รฟม.จะไปพิจารณารูปแบบที่เหมาะสมในการจัดการบัตรแมงมุม 2 แสนใบ ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละระบบสามารถปรับปรุงรองรับได้ภายใน 6 เดือน ระยะที่ 2 จะเปิดใช้ระบบ EMV ได้สมบูรณ์ทุกโครงการเดือน ธ.ค. 2562

“เทคโนโลยี EMV นั้น นอกจากจะทันสมัย สะดวกรวดเร็ว และไม่มีต้นทุนในการผลิตบัตรแมงมุมเหมือนเดิม เพราะระบบ EMV ามารถรองรับบัตรต่างๆ ที่มีใช้งานทั่วโลก ขณะที่การลงทุนระบบและค่าดูแลตลอดอายุ 20 ปีถูกลงประมาณ 50% จากแมงมุม 2.0 ซึ่งปัจจุบันระบบ EMV มีใช้แล้วที่ลอนดอน และสิงคโปร์ และพบว่าอีก 127 เมืองกำลังพัฒนาตั๋วร่วมของตัวเองเป็นระบบ EMV”

ทั้งนี้ รฟม.ได้เสนอเทคโนโลยีบัตรแบบ EMV (Euro.Master.Visa) Contactless Smart Card (Open Loop) กับระบบตั๋วร่วม โดยปรับแนวทางการพัฒนาระบบตั๋วร่วมตามแนวทางการศึกษาเดิมที่จะเริ่มใช้งานตั๋วร่วมแบบระบบปิด (Close Loop Mangmoom 2.0) ก่อน แล้วจึงพัฒนายกระดับเป็นแบบระบบเปิด (EMV : Mangmoom 4.0) ในระยะต่อไป เป็นเสนอให้พัฒนาและใช้งานตั๋วร่วมแบบระบบเปิด (EMV : Mangmoom 4.0) ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งการใช้ระบบเปิดแบบ EMV จะใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงพัฒนาระบบใกล้เคียงกับระบบปิดแบบเดิมแต่ใช้งบประมาณในการดำเนินงานน้อยกว่า

ซึ่งพบว่ามีข้อดีของการใช้ระบบเปิดต่อประชาชน คือ 1. เพิ่มความสะดวกมากขึ้นในการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ โดยสามารถนำบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตระบบ EMV ที่มีอยู่แล้วมาใช้บริการได้ทันที โดยไม่ต้องมีบัตรเงินสดเพิ่มเติม 2. ลดภาระในการเติมเงินลงในบัตรล่วงหน้า เนื่องจากจะเปลี่ยนเป็นการชำระเงินตามรอบในแต่ละเดือนหลังการใช้งาน
3. เพิ่มความปลอดภัยในกรณีบัตรหายเนื่องจากไม่มีจำนวนเงินสดเก็บอยู่ในบัตร สามารถอายัดบัตร EMV ได้ทันที 4. ค่าใช้จ่ายการเดินทางลดลง ด้วยระบบ Guarantee Minimum Fare ที่ใช้การหักค่าใช้จ่ายการเดินทางรายเที่ยว เป็นตั๋วรายวันหรือรายสัปดาห์โดยอัตโนมัติ ตามยอดการใช้จ่าย 5. สามารถรับผลประโยชน์จากนโยบายของภาครัฐในการลดค่าโดยสาร

ข้อดีของการใช้ระบบเปิด ต่อหน่วยงานบริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม : CTC (รฟม.) คือ 1. ลดค่าใช้จ่ายในการผลิตและจำหน่ายบัตร ค่าบริหารจัดการบัตร เติมเงิน และค่าบริหารจัดการบัตรโดยรวม ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงด้านต้นทุนการดำเนินงาน 2. สามารถเก็บค่าธรรมเนียม (Transaction Fee) ในอัตราที่ต่ำลง (0.8%) จึงช่วยลดภาระของผู้ประกอบการระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้เกิดการเข้าร่วมในระบบตั๋วร่วมเพิ่มขึ้นในวงกว้าง

3. มีฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น จากที่มีผู้ถือบัตรเครดิต บัตรเดบิต ในปัจจุบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ 4. มีสถาบันทางการเงินเข้าร่วมเป็นผู้ออกบัตรจำนวนมาก สามารถตัดลดภาระในการประชาสัมพันธ์บัตร 5. ลดค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง Front End และค่าบริหารจัดการระบบด้วย 6. การดำเนินนโยบายด้านค่าโดยสารร่วม และการตอบสนองนโยบายภาครัฐในด้านการลดค่าโดยสารต่างๆ สามารถทำได้ง่ายและสะดวก

ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรเครดิต Master Card และ Visa Card มากถึง 70 ล้านใบ แบ่งออกเป็น บัตรเดบิต 50 ล้านใบ บัตรเครดิต 20 ล้านใบ


กำลังโหลดความคิดเห็น