ผู้จัดการรายวัน 360 - กลุ่มดุสิตธานี ชู 3 กลยุทธ์หลักรุกธุรกิจ ปีนี้ผุดแบรนด์ใหม่ “อาศัย” โรงแรมเจาะกลุ่มมิลเลนเนียม รับตลาดใหญ่ที่กลุ่มนี้คาดว่าจะมีการเดินทางถึง 300 ล้านครั้งต่อปีในอีก 2 ปีนี้ นำร่องที่แรก ย่านจตุจักร พร้อมแผนเปิดให้ได้ 10 แห่งต่อปี
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล (DTC) กล่าวถึงแผนธุรกิจปี 2561 ว่า ดุสิตฯ มีแผนการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ที่มุ่งสร้างความแข็งแกร่งและผลตอบแทนที่ดีให้แก่กลุ่มดุสิตธานีในระยะยาว ผ่านการดำเนินงานการใน 3 ด้าน คือ 1. การขยายการเติบโตของธุรกิจหลัก 2. การสร้างความสมดุลของธุรกิจ และ 3. การกระจายความเสี่ยงในการลงทุน เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่องค์กร กลยุทธ์ในปีนี้กลุ่มดุสิตจะรุกสร้างความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตของธุรกิจหลักด้วยการเปิดตัวแบรนด์กลุ่มโรงแรมใหม่ ภายใต้ชื่อ “อาศัย” ซึ่งจะบริหารงานโดยบริษัท อาศัย โฮลดิ้ง จำกัด
“แบรนด์โรงแรม “อาศัย” เจาะกลุ่มนักเดินทาง กลุ่มไลฟ์สไตล์มิลเลนเนียม กลุ่มนี้จะเดินทางมากกว่า 190 ล้านครั้งต่อปี คิดเป็น 20% ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 300 ล้านครั้งต่อปีภายในปี 2563 ปัจจุบันนี้กลุ่มดุสิตธานีมีการพัฒนาและมีโรงแรมที่เปิดให้บริการภายใต้แบรนด์ดุสิต ได้แก่ ดุสิตธานี ดุสิตดีทู ดุสิตปริ๊นเซส และดุสิตเดวาราณา ที่ประเทศจีน ครอบคลุมตลาดระดับกลางและระดับบน รวมทั้งสิ้น 27 แห่ง และมีแผนเตรียมเปิดให้บริการเพิ่มอีกกว่า 70 แห่งทั่วโลกภายใน 4 ปีข้างหน้า” นางศุภจีกล่าว
ในส่วนของแบรนด์โรงแรมใหม่ “อาศัย” จะเป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มให้แก่กลุ่มดุสิตธานี ด้วยตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ที่มุ่งเจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์ในราคาที่จับต้องได้ ที่ประมาณ 1,800 บาทต่อคืน พัฒนาแห่งแรกที่ใจกลางตลาดนัดสวนจตุจักร คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ช่วงไตรมาสแรก ปี 2562 โดยบริษัท อาศัย โฮลดิ้ง จำกัด จะมีการดำเนินการบริหารกลุ่มแบรนด์อาศัย ในอีก 5 แห่ง ได้แก่ โรงแรมอาศัย 3 แห่งในประเทศฟิลิปินส์ และอีก 1 แห่งในประเทศพม่า รวมถึงโรงแรมในย่านสาทร ซ.12 กรุงเทพฯ มีมูลค่ารวม 400-500 ล้านบาท
“ตามแผนเราวางเป้าเปิด 10 แห่งต่อปี ในปีนี้เราลงทุนเองและเซ็นสัญญาไปแล้วรวม 6 แห่ง และกำลังพิจารณาที่เกาะสมุย ที่ประเทศเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ทั้งนี้ หากเป็นไปตามแผนจะทำให้มีห้องพักรวม 1,000 ห้อง และคาดว่าจะเปิดการให้บริการได้ในปี 2562 สำหรับสัดส่วนรายได้ของกลุ่มดุสิตธานี แบ่งเป็น 95% มาจากโรงแรมที่เป็นเจ้าของเอง และอีก 5% เป็นรายได้จากการรับบริหาร
ปัจจุบัน บมจ.ดุสิตธานี บริหารงานทั้งโรงแรมและรีสอร์ต รวม 4 แบรนด์ มีโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้ว 27 แห่ง และมีโรงแรมที่อยู่ในแผนการพัฒนาเพื่อเตรียมเปิดให้บริการอีกกว่า 50 แห่งทั่วโลก มีธุรกิจเทวารัณย์ สปา และการศึกษา คือ วิทยาลัยดุสิตธานี มีสาขาอยู่ที่กรุงเทพฯ และพัทยา และการบริหารโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต
นายศิรเดช โทณวณิก กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาศัย โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า “แบรนด์ “อาศัย” เป็นแบรนด์กลุ่มโรงแรมไลฟ์สไตล์ในราคาที่จับต้องได้ สำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากกรอบแบบเดิมๆ และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับแต่ละคน เรามั่นใจว่าการจับมือร่วมงานกับช่างฝีมือท้องถิ่นในการออกแบบโรงแรมอาศัยในแต่ละทำเลจะสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำให้กับแขกที่เข้าพักตามสโลแกน Live Local ของเรา”
รูปแบบการให้บริการของกลุ่มโรงแรมอาศัยจะแตกต่างออกไปจากกรอบให้บริการรูปแบบเดิมๆ ของโรงแรม โดยนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ในการจองและการเข้าพัก อาทิ การเช็กอินด้วยตัวเองที่ตู้บริการอัตโนมัติ บริการคู่มือท่องเที่ยวออนไลน์แบบพิเศษที่ให้ข้อมูลแขกของอาศัยเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมที่มีแต่เฉพาะคนท้องถิ่นเท่านั้นที่รู้จัก หรือสถานที่ที่เหมาะกับการเป็นจุดถ่ายรูปเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในโซเชียลมีเดีย รวมถึงยังมีการลิงค์เข้ากับไกด์ท้องถิ่นเพื่อพาไปเปิดประสบการณ์แปลกใหม่
ปรัชญาในการสร้างแบรนด์อาศัย ประกอบด้วย Thoughtful Essentials การออกแบบพื้นที่ใช้สอยด้วยความใส่ใจในรายละเอียด Locally-inspired การออกแบบที่ผสานเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัวในท้องถิ่นของแต่ละที่ Common Areas การจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางภายในโรงแรมสำหรับให้ผู้คนมาพบปะแลกเปลี่ยนไอเดียและประสบการณ์ และConnected Community การเชื่อมโยงวัฒนธรรมที่แตกต่างของนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้ จากปรัชญาในข้างต้นโรงแรมอาศัยทุกแห่งจึงมีห้องพักที่ได้รับการตกแต่งในสไตล์ร่วมสมัยขนาดกะทัดรัด (ประมาณ 15 ตร.ม.) แต่พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับคุณภาพ เช่น เตียงนอนคุณภาพสูง หรือฝักบัวอาบน้ำแรงดันสูง นอกจากนี้ โรงแรมยังให้ความสำคัญต่อพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ที่แขกผู้เข้าพักจะสามารถมีมุมพักผ่อน พูดคุย เล่นเกม หรือทำงานได้เต็มที่ รวมถึงร้านอาหารที่รังสรรเมนูโดยเชฟชื่อดังในท้องถิ่นที่ให้ความใส่ใจต่อการปรุงอาหารด้วยความรับผิดชอบเพื่อสนับสนุนความยั่งยืน
“ในทุกแห่งที่เราไป โรงแรมอาศัยมุ่งที่จะเสริมสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้แก่ท้องถิ่นนั้นๆ ตั้งแต่การส่งเสริมให้ชุมชนพึ่งพาตัวเองได้ในด้านเศรษฐกิจและสังคม ไปจนถึงการใช้ทรัพยากรที่หาได้ในท้องถิ่นและการลดปริมาณขยะและของเหลือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหนทางสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง ตัวโรงแรมอาศัยเองให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ กับการสร้างความยั่งยืนในกระบวนการทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน ตั้งแต่การออกแบบ การเลือกอุปกรณ์และเครื่องใช้ภายในโรงแรมและห้องพักแขกที่ทำจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การลดปริมาณอาหารเหลือทิ้ง ซึ่งเรามีแผนการที่จะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม” นายศิรเดช เปิดเผยเพิ่มเติม
โรงแรมอาศัยแห่งแรกจะตั้งอยู่บนทำเลใจกลางตลาดนัดสวนจตุจักร แหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณช่วงไตรมาส 1 ปี 2562 นอกจากโรงแรมอาศัย จตุจักรแล้ว อาศัย โฮลดิ้งส์ จะดำเนินการบริหารกลุ่มโรงแรมแบรนด์อาศัย อีก 5 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมอาศัย 3 แห่งในประเทศฟิลิปปินส์ และอีก 1 แห่งในประเทศพม่า รวมถึงโรงแรมอาศัยในย่านสาทร กรุงเทพฯ ทั้งหมดนี้คาดว่าจะให้บริการได้ในปี 2562
ทั้งนี้ อาศัย โฮลดิ้งส์ ยังมีแผนจะขยายจำนวนโรงแรมอาศัยเพิ่มเป็น 10 แห่งภายในปี 2561 นี้ โดยเล็งที่จะขยายไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศญี่ปุ่นภายใต้รูปแบบบริษัทร่วมทุนและสัญญารับจ้างบริหารงาน