กระทรวงพลังงานออกข่าวแจงกรณี สร.กฟผ.บุกถามความชัดเจน รมว.พลังงาน ถึงนโยบายโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่-เทพา ย้ำเพราะความเห็นต่างเลยต้องให้ทำ SEA เพื่อหาพื้นที่เหมาะสมในการก่อสร้าง และยืนยันให้ความสำคัญต่อการกระจายเชื้อเพลิง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นของวันนี้ (28 ก.พ.) กระทรวงพลังงานได้ออกข่าวประชาสัมพันธ์ชี้แจงกรณีที่มีการเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) เพื่อขอทราบความชัดเจนในนโยบายและทิศทางพลังงานไฟฟ้าของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้นั้น กระทรวงพลังงานได้ชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจ ดังนี้
1. กรณีการพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ และเทพา กระทรวงพลังงานได้พิจารณาแล้ว การพัฒนาโครงการฯ ดังกล่าว มีทั้งกลุ่มคนที่เห็นด้วย และเห็นต่าง ซึ่งแนวทางการพัฒนาประเทศ จำเป็นต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และอยู่บนพื้นฐานประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ ในกรณีดังกล่าวกระทรวงพลังงานขอย้ำว่าได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาทบทวนความเหมาะสมในเรื่องของที่ตั้งโรงไฟฟ้า ให้มีการจัดทำ SEA (การประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์) ซึ่งเป็นการดำเนินงานทางวิชาการ เพื่อหาพื้นที่ที่เหมาะสม ในการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดใหญ่
2. ในส่วนของความมั่นคงด้านไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้พิจารณาเสนอแนวทางการรักษาความมั่นคงด้านไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยเสนอให้มีการขยายสายส่งไฟฟ้า ให้เพียงพอและมีความมั่นคงมากขึ้น ขณะเดียวกันจะมีการพัฒนาโรงไฟฟ้าชีวมวล 300 เมกะวัตต์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรองรับความต้องการในพื้นที่และมีการพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าเฉพาะในพื้นที่ดังกล่าว
3. กระทรวงพลังงานให้ความสำคัญในการกระจายประเภทเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าทั้งก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และพลังงานทดแทน ในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยปัจจุบันยังมีความเหมาะสมที่จะต้องเพิ่มสัดส่วนการใช้ถ่านหิน เพื่อการผลิตไฟฟ้า
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานยังแจงว่า พร้อมเปิดรับทุกความคิดเห็นที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติโดยรวม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ. รมว.พลังงาน ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ โดยมีองค์ประกอบ 12 คนมีรองปลัดกระทรวงพลังงานที่กำกับดูแลสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์เป็นประธาน มีนายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นายอานนท์ สินทวงศ์ ณ อยุธยา นายปกรณ์ ปรียากร นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล เป็นต้น