“สนธิรัตน์” สั่งเพิ่มจำนวนนักรบเศรษฐกิจรุ่นใหม่ภายใต้โครงการ YEN-D ให้มีมากขึ้น หวังลุยขยายการค้า การลงทุนกับ CLMV ได้ต่อเนื่อง เผยผลงาน 3 รุ่นที่ผ่านมาสำเร็จเกินคาด สร้างเครือข่ายได้ 860 คน ทำยอดการค้า การลงทุนแล้วกว่า 2,800 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวรุ่นที่ 4 วันที่ 2 ก.พ.นี้ เพิ่มเครือข่ายอีก 240 คน ระบุยังได้ให้เจรจาพันธมิตรอัดฉีดเพิ่มขึ้นด้วย
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศเพิ่มจำนวนนักรบเศรษฐกิจรุ่นใหม่ภายใต้โครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (YEN-D Program) ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ของไทยและประเทศเพื่อนบ้านมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเป็นกลจักรสำคัญในการขยายการค้าและการลงทุนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในตลาด CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว พม่า และเวียดนาม) ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่ให้ความสำคัญต่อการขยายการค้าชายแดนและการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน
“ขอให้เพิ่มจำนวนนักรบเศรษฐกิจรุ่นใหม่ให้มีจำนวนมากขึ้น เพราะคนรุ่นใหม่เหล่านี้จะเป็นแขนขาที่สำคัญของไทยในอนาคต แม้ตอนนี้นักธุรกิจรุ่นใหม่เหล่านี้ส่วนใหญ่จะยังเป็น SMEs แต่ในอนาคตจะขยับเป็นรายกลาง เป็นรายใหญ่ ซึ่งจะทำให้การค้า การลงทุนของไทยกับ CLMV เติบโตได้อย่างยั่งยืน และการผลักดันให้ SMEs ทำมาค้าขาย ยังสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงฯ ที่ต้องการผลักดันให้ SMEs มีโอกาสในการทำการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย” นายสนธิรัตน์กล่าว
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินโครงการ YEN-D ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2558-60) สามารถสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการไทยกับเพื่อนบ้านได้แล้ว 860 คน มีผลงานการเจรจาจับคู่ธุรกิจ และเกิดมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันแล้วกว่า 2,800 ล้านบาท โดยมั่นใจว่ามูลค่าการค้าการลงทุนจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้นักธุรกิจรุ่นใหม่ได้มีการขยายความร่วมมือกันเพิ่มมากขึ้น มีการแนะนำและชี้ช่องทางในการทำธุรกิจให้กันและกันโดยตลอด ซึ่งกระทรวงฯ จะมีการเปิดตัวโครงการ YEN-D 4.1 ซีซัน 4 ในวันที่ 2 ก.พ. 2561 เพื่อสร้างเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งเป้า 240 คน เป็นฝ่ายไทย 120 และ CLMV 120 คน รวม 240 คน
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศหารือกับหน่วยงานพันธมิตรที่เข้ามาสนับสนุนโครงการ เช่น ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ตลาดต่อยอด เออีซี จำกัด และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พิจารณาให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ YEN-D ที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้นด้วย