ผู้จัดการรายวัน 360 - “พีพีทีวี” ทุ่มมากกว่า 1,000 ล้านบาทลุยปี61 ปรับผังใหม่ 50% ส่งคอนเทนต์เวิลด์คลาสสู้เกมทีวีดิจิตอล หวังสิ้นปีขยับสู่กลุ่มท็อปเท็น พร้อมเพิ่มรายได้อีก 50-60% จากปีก่อน
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด (พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36) เปิดเผยว่า ภาพรวมการแข่งขันของทีวีดิจิตอลช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมานี้มีจำนวนช่องเพิ่มขึ้นกว่า 22 ช่อง แต่ละช่องเร่งสร้างความชัดเจน และมีเพียงไม่กี่ช่องที่ทำได้
ในส่วนของพีพีทีวีที่ผ่านมามีความชัดเจนของความเป็นช่องกีฬาจากเวิลด์คลาส ฟุตบอล ที่มีรายการหลักเป็นฟุตบอล และข่าว ปี 2561 นี้พร้อมที่จะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันมากขึ้นสู่ความเป็นเวิลด์คลาสเอนเตอร์เทนเมนต์ ในการนำคอนเทนต์บันเทิงเข้ามาเสริมทัพ มั่นใจว่าจากเดิมช่องพีพีทีวีจัดอยู่ในลำดับ 11 หรือจัดอยู่ในกลุ่มที่สาม สิ้นปี 2561 นี้จะขยับขึ้นมาอยู่ในกลุ่มที่ 2 หรือท็อปเท็นของทีวีดิจิตอลทั้งหมด
“เราได้ทำการปรับกระบวนทัพใหม่ในแง่ของผังรายการ เพื่อกอบกู้ด้านรายได้ท่ามกลางวิกฤตของอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลในภาพรวมตอนนี้ โดยรายการใหม่ที่นำเสนอปีนี้คิดเป็น 50% ของผังรายการเดิม โดยตัดรายการนำเข้ากีฬา และรีรันฟุตบอลลดลงทำให้สัดส่วนผังรายการปีนี้ประกอบด้วย ข่าว 30% บันเทิง 35% กีฬา 25% และสารคดี 10% ซึ่งจะทำให้เพิ่มฐานผู้ชมกลุ่มผู้หญิงเข้ามาเป็นฐานหลัก 55% ชายเหลือ 45% จากปกติผู้ชายถือเป็นกลุ่มหลัก”
โดยปีนี้ทางบริษัทฯ พร้อมใช้งบลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท มากที่สุดที่เคยใช้มา หรือเพิ่มจากปีก่อน 1 เท่าตัว ในการนำเสนอคอนเทนต์ใหม่ ซึ่งมีทั้งการซื้อลิขสิทธิ์ ฟอร์แมตรายการจากต่างประเทศ และจ้างผลิต ภายใต้ผังรายการใหม่เริ่ม 1 กุมภาพันธ์ 2561 นี้เป็นต้นไป ได้แก่ 1. กลุ่มรายการบันเทิง คือ ET Thailand ออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 18.20-20.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ เวลา 18.20-19.00 น. เริ่ม 1 มี.ค.นี้เป็นต้นไป 2. สารคดี คือชั่วโมงดิสคัฟเวอรีกับ 5 สารคดี ทั้ง Survival, Extreme Jobs, Pop Science และ Turbo ออกอากาศทุกเช้าวันจันทร์ถึงอาทิตย์ เวลา 08.00-09.00 น. ตั้งแต่ 1 ก.พ.นี้เป็นต้นไป
3. ภาพยนตร์ ออกอากาศช่วงไพรม์ไทม์ ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15-22.00 น. โดยได้ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์คุณภาพฟอร์มยักษ์จากหลากหลายค่ายดังมากขึ้น 4. ไลฟ์สไตล์ เช่น เกมโชว์ King of Games, The Hunter Game, Human Knowledge, Crazy Market, Journey the Mission, The Real Housewives of Bangkok และซิตคอม “คิดดี คลินิก” และ 4. กีฬา ที่ได้ลิขสิทธิ์เพิ่มเติม คือ MotoGP และ Moto2 จากทั่วโลก และการแข่งขันครั้งแรกในไทยที่สนามแข่งขันจังหวัดบุรีรัมย์
นายสุรินทร์กล่าวต่อว่า ความท้าทายในการเข้ามาบริหารงานที่พีพีทีวี (เดิมบริหารงานอยู่ที่ช่อง 3) คือแนวทางการทำงานที่แตกต่างจากเดิม ต้องเดินเข้าหาลูกค้ามากขึ้น จากเดิมที่ลูกค้าจะเข้ามาหาเรา ซึ่งการนำเสนอคอนเทนต์ใหม่ของพีพีทีวีครั้งนี้มั่นใจว่าหลายรายการจะได้รับความสนใจจากเอเยนซีและโฆษณาได้ตั้งแต่ก่อนออกอากาศ ไม่ว่าจะเป็น ET Thailand ที่ได้ทางกันตนาเป็นผู้ผลิต หรือสารคดีจากดิสคัฟเวอรี รวมถึง MotoEP ที่จะแข่งขันในไทย มั่นใจว่าจะส่งผลให้ปีนี้มีรายได้เพิ่มจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 50-60% ส่งผลรายได้รวมปีนี้ขาดทุนลดลง