“พาณิชย์” หารือทูตเวียดนาม ตั้งเป้าดันการค้าเพิ่มเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐปี 63 สบช่องขอให้ชะลอการบังคับใช้ระเบียบนำเข้ารถยนต์ และเร่งให้จัดประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าโดยเร็ว หวังดันมูลค่าการค้า การลงทุนระหว่างกัน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2561 ที่ผ่านมา Mr. Nguyen Hai Bang เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะเนื่องในโอกาสเข้ารับหน้าที่ จึงได้ใช้โอกาสนี้หารือถึงความร่วมมือระหว่างไทยกับเวียดนาม เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจและการค้า และขยายผลของความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ทั้งสองประเทศจะเติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง ตลอดจนนำศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยและเวียดนามมาเชื่อมโยงกัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของภูมิภาค CLMVT ในการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน และขยายโอกาสการค้าไปสู่ตลาดโลก รวมทั้งได้ตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างไทยและเวียดนามให้สามารถบรรลุเป้าหมายการค้าที่ทั้งสองประเทศได้ตั้งไว้ที่ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2563
“ไทยได้เร่งรัดให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee - JTC) ครั้งที่ 3 ซึ่งเวียดนามรับเป็นเจ้าภาพ ในช่วงต้นปี 2561 โดยการประชุม JTC จะเป็นเวทีที่ทั้งสองฝ่ายจะได้มีโอกาสพบปะหารือเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการค้าและการลงทุน แลกเปลี่ยนข้อมูล และขยายการค้าระหว่างกัน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม เป็นประธานร่วม”
นอกจากนี้ ได้ขอบคุณเวียดนามที่ได้เลื่อนการบังคับใช้กฎระเบียบที่กำหนดให้เครื่องมือแพทย์ ได้แก่ ถุงยางอนามัย และเจลหล่อลื่น (Decree 36) ต้องขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์หรือได้รับอนุญาตให้นำเข้าออกไปก่อนตามที่ไทยเรียกร้อง โดยให้บังคับใช้ในปี 2562 ซึ่งทำให้ผู้ส่งออกไทยได้มีเวลาเตรียมตัว และยังได้ขอให้เวียดนามทบทวน และชะลอการบังคับใช้กฎระเบียบที่เกี่ยวกับเงื่อนไขการผลิต การค้า และการนำเข้ารถยนต์ (Decree 116) ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เคยหยิบยกหารือกับนายเหวียน ซวน ฟุกนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ณ นครดานัง เมื่อเดือนพ.ย. 2560 ด้วย โดยนายกรัฐมนตรีเวียดนามรับที่จะอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนการนำเข้ารถยนต์จากไทย ซึ่งเอกอัครราชทูตเวียดนามรับที่จะติดตามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว
สำหรับเวียดนามเป็นคู่ค้าอันดับที่ 7 ของไทยในโลก และอันดับที่ 4 ของไทยในกลุ่มอาเซียน รองจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โดยในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (2555-2559) การค้าระหว่างไทยกับเวียดนามมีมูลค่าเฉลี่ยประมาณปีละ 11,170.24 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 8.83 ต่อปี โดยในปี 2559 การค้ารวมไทย-เวียดนาม มีมูลค่า 13,852.71 ล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วง 11 เดือนของปี 2560 (ม.ค.-พ.ย.) การค้าระหว่างไทยกับเวียดนาม มีมูลค่าการค้ารวม 15,036.21 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.04% โดยไทยส่งออกสินค้าไปเวียดนามมีมูลค่า 10,504.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าสินค้าจากเวียดนามมีมูลค่า 4,531.7 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องดื่ม เครื่องจักรกลและส่วนประกอบเครื่องจักร เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น